ไทยแลนด์ริเวียร่า ปลุกท่องเที่ยวภาคใต้

ไทยแลนด์ริเวียร่า ปลุกท่องเที่ยวภาคใต้

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 นอกจากจะเป็นวิกฤติสำหรับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่อง ที่ได้รับผลกระทบเป็นอันดับต้นๆ จากการปิดประเทศ (ล็อกดาวน์) เพื่อสกัดการระบาดของโรคทว่าสถานการณ์โควิดในไทยคลี่คลายต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน ไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศมาเป็นเวลากว่า 60 วัน ขณะเดียวกันรัฐยังคลายล็อกดาวน์ในหลายเฟส กลายเป็นโอกาสสำหรับฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากนี้

นอกจากนี้ หนึ่งในมาตรการแรกๆของรัฐในการฟื้นฟูประเทศ คือมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ตามโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา (25-28 ก.ค.)มีการเดินทางท่องเที่ยวกันคึกคักทำให้ธุรกิจนี้เริ่มเห็นแสงสว่าง จากข้อพิสูจน์ที่ว่า ยังมีความต้องการ (ดีมานด์) เดินทางท่องเที่ยว คงเหลือเพียงการปลดล็อก ให้เที่ยวบินระหว่างประเทศ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งการบริหารจัดการโควิดที่ดีของไทย น่าจะมีส่วน ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาเยือนไทย ในไม่ช้า

หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย เป็นพื้นที่ตากอากาศสำคัญของไทยเช่นเดียวกับเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ช่วงที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลภาคใต้ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมที่จะมีส่วนสำคัญในการเดินทางขนส่งของนักท่องเที่ยวตลอดแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ตั้งแต่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี รวมไปถึง อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมจะเป็นแรงผลักดันที่ช่วยให้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น โดยกระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดโครงการส่วนต่อขยายโครงข่าวถนน ไทยแลนด์ ริเวียร่า เส้นทางหลักและสเปอร์ไลน์ลงไปภาคใต้ปี 2563 ระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร โดยมีการสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาเส้นทางแนวเขาตะนาวศรีเลียบทะเลฝั่งตะวันตก เชื่อมจาก อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ถึง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 196 กิโลเมตร เพื่อสำรวจและออกแบบระยะเวลา 1 ปี

รวมถึงการสำรวจและออกแบบเส้นทางจาก จังหวัดสมุทรปราการ ถึง จังหวัดสมุทรสงคราม ระยะทางเส้นหลักและสเปอร์ไลน์ รวม 100 กิโลเมตร ซึ่งจะสำรวจและออกแบบ ระยะเวลา 1 ปี

การดำเนินการดังกล่าวจะทำเป็นการเชื่อมต่อไปกับถนนไทยแลนด์ริเวียร่าตลอดชายฝั่งทะเลเชื่อมจากจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และลงไปยังพื้นที่ภาคใต้จังหวัดชุมพร ถึง จังหวัดสงขลา

นอกจากนี้ โครงการทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) เส้นทางนครปฐมชะอำ ระยะทาง 119 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 79,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันติดขัดในเรื่องแนวเวนคืนที่ดินในแนวเส้นทางผ่าน จ.เพชรบุรี โดยโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) มาตั้งแต่ปี 2555 และปัจจุบันอยู่ระหว่างการแก้ปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินที่มีปัญหามานาน เพื่อเตรียมเสนอความเห็นชอบโครงการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ

แน่นอนว่าหากโครงการทางหลวงพิเศษเส้นทางนี้เสร็จเรียบร้อยจะทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปแหล่งท่องเที่ยวทั้งชะอำและหัวหันมีความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น จากปัจุบันที่มีปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงวันหยุด

ในขณะที่การเดินทางท่องเที่ยวด้วยเครื่องบินที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งกรมท่าอากาศยานได้เดินหน้าลงทุนเพิ่มขีดความสามารถของ สนามบินหัวหิน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ ริเวียร่า ส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอ่าวไทยด้านตะวันตก ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และเชื่อมต่อการเดินทางไปทะเลฝั่งอันดามัน จังหวัดระนอง

ไทยแลนด์ริเวียร่า ปลุกท่องเที่ยวภาคใต้

สนามบินหัวหินที่ตั้งมีศักยภาพเพียงพอต่อการส่งเสริมเป็นศูนย์กลางการบินของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลตะวันตก ซึ่งกรมท่าอากาศายานจึงใช้เงินลงทุนราว 3,500 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างขยายความกว้างทางวิ่งจาก 30 เมตร เป็น 45 เมตร และในอนาคตมีแผนจะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เพื่อรองรับผู้โดยสารให้ได้ 3.4 ล้านคนต่อปี

ปัจจุบันสนามบินหัวหิน มีอาคารผู้โดยสารขนาด 7,200 ตารางเมตร และพื้นที่ลานจอดเครื่องบินขนาด 31,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 240 คนต่อชั่วโมง รองรับเที่ยวบินประจำและแบบเช่าเหมาลำได้ ซึ่งปัจจุบันมีสายการบินที่ทำการบินประจำ คือ แอร์เอเชีย ในเส้นทางหัวหิน-อุดรธานี และเส้นทางหัวหิน-เชียงใหม่

ที่ผ่านมาสนามบินหัวหินเคยเปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ เส้นทางหัวหิน-กัวลาลัมเปอร์ ของสายการบินแอร์เอเชีย แต่หยุดทำการบินเพราะการระบาดของโรคโควิด-19 และเมื่อการระบาดคลี่คลายลงคงจะมีการพิจารณาทำการบินอีกครั้ง รวมไปถึงเส้นทางใหม่ที่เชื่อมระหว่างหัวหิน-ภูเก็ต ซึ่งจะทำให้เที่ยวบินจากต่างประเทศที่บินสู่เชียงใหม่หรือภูเก็ต จะมีการต่อเครื่องบินมาที่หัวหินในอนาคต

รวมทั้งจะทำให้สนามบินหัวหินมีศักยภาพสำหรับการบินระหว่างประเทศที่องรับเครื่องบินที่ใช้เวลาโดยสารไม่เกิน 5 ชั่วโมงจากจีนตอนใต้ เกาหลี อินเดีย ฮ่องกง และอาเชียน

และที่มองข้ามไม่ได้ คือ การพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เส้นทางนครปฐมชุมพร ระยะทาง 421 กม. เงินลงทุน 33,982 ล้านบาท จะดำเนินการงานโยธาเสร็จในปี 2564 เพื่อเปิดให้บริการในปี 2565 จะทำให้การเดินทางมาหัวหินด้วยรถไฟใช้เวลาลดลง

รวมทั้งในปัจจุบันมีการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งจะทำให้การเดินทางด้วยระบบรางมีความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการพัฒนารถไฟความเร็วสูงได้มีการศึกษาส่วนต่อขยายไปถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งในระยะต่อไปจะขยายไปถึงชายแดนภาคใต้ที่บาดังเบซา

ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะจากการเดินหน้าโครงการถนนเลียบชายฝั่งทะเลใต้หรือ ไทยแลนด์ริเวียร่า ที่จะเชื่อมโยงการเดินทางใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร และมีโอกาสต่อไปถึงจังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ตได้ในอนาคต ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นทั้งการเดินทางท่องเที่ยว และเลือกที่อยู่อาศัยค่อนข้างมาก

ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐที่พร้อมพัฒนาเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน ผู้ประกอบการและประเทศเพิ่มมากขึ้น