รัฐบาลสหรัฐ เตรียมส่ง 'ระเบิดลูกปราย' ให้ยูเครน ไม่สนเสียงคัดค้าน

รัฐบาลสหรัฐ เตรียมส่ง 'ระเบิดลูกปราย' ให้ยูเครน ไม่สนเสียงคัดค้าน

รัฐบาลสหรัฐ ตัดสินใจจัดส่ง ระเบิดลูกปราย ให้ยูเครน ขณะฮิวแมนไรท์วอทช์ เรียกร้องรัสเซีย-ยูเครน เลิกใช้อาวุธประเภทนี้ เหตุส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก

สำนักข่าวเอพี รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวหลายคนที่กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐ เตรียมแถลงว่าจะมีการส่ง ระเบิดลูกปราย หลายพันลูกให้กับ ยูเครน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความช่วยหลือจากสหรัฐที่มีมูลค่าสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ ในการช่วยยูเครนสู้กับรัสเซีย

ที่ผ่านมา มีความกังวลว่าระเบิดลูกปรายมีประวัติเป็นอาวุธที่สร้างการบาดเจ็บล้มตายให้เเก่พลเรือน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า จะให้อาวุธระเบิดที่ลดอัตราความผิดพลาดจากเหตุระเบิดด้าน ซึ่งหวังว่าจะช่วยลดการเสียชีวิตของพลเรือนได้

นอกจากระเบิดลูกปลายแล้ว ยุทธภัณฑ์ที่สหรัฐเตรียมส่งให้ยูเครนครั้งนี้ยังประกอบด้วยยานเกราะประเภทแบรดลีย์ และสไตรเกอร์ รวมถึงกระสุนหลายชนิด และกระสุนสำหรับเครื่องยิงฮาววิตเซอร์และระบบยิง HIMARS

ยูเครน มีความต้องการระเบิดลูกปรายมานาน โดยอาวุธประเภทนี้สามารถสร้างความเสียหายในวงกว้างจากลูกระเบิดชิ้นเล็ก ๆ ที่ถูกปล่อยกระจายออกมาได้จำนวนมากในเวลาเดียวกัน
และการให้ความช่วยเหลือยูเครนด้วยการส่งระเบิดลูกปลายให้ มีขึ้นในช่วงที่กองทัพรัสเซียกำลังใช้ระเบิดลูกปรายในการทำสงครามครั้งนี้กับยูเครน โดยแหล่งข่าว เปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า รัสเซียใช้อาวุธชนิดนี้ทั้งในบริเวณสนามรบและพื้นที่ที่มีพลเรือนอาศัยอยู่

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของคณะกรรมการกาชาดสากล ระบุว่า  ในบางครั้งระเบิดลูกปรายเป็นสาเหตุของการตกค้างของระเบิดลูกเล็ก ๆ ที่ไม่จุดชนวน โดยอัตราระเบิดด้านอาจสูงถึง 40%

แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า ระเบิดลูกปรายที่จะส่งให้ยูเครนมีอัตราระเบิดด้านอยู่ที่ไม่ถึง 3% จึงเชื่อว่าน่าจะทำให้เกิดระเบิดตกค้างที่เป็นภัยต่อพลเรือนน้อยลง

ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์ หรือ HRW เรียกร้องเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ให้ทั้งกองกำลังรัสเซีย และยูเครนเลิกใช้อาวุธประเภทระเบิดลูกปราย ซึ่งส่งผลให้พลเรือนยูเครนเสียชีวิต พร้อมทั้งเรียกร้องไม่ให้สหรัฐจัดหาอาวุธดังกล่าวให้แก่ยูเครน

นางแมรี แวร์แฮม รักษาการผู้อำนวยการด้านอาวุธของ HRW ระบุว่า “อาวุธประเภทระเบิดลูกปรายที่รัสเซีย และยูเครนใช้ กำลังคร่าชีวิตพลเรือนในขณะนี้และจะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายปี ทั้งสองฝ่ายควรหยุดใช้อาวุธนี้ทันที และไม่พยายามจัดหาอาวุธดังกล่าวอีก”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กว่า 120 ประเทศได้ลงนามในสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการห้ามใช้อาวุธประเภทระเบิดลูกปราย ซึ่งจะกระจายลูกระเบิดขนาดเล็กจำนวนมากออกไปทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถสังหาร หรือทำให้พลเรือนบาดเจ็บ และพิการในช่วงเวลาหลายเดือน หรือหลายปีหลังจากนั้น

ขณะที่รัสเซีย ยูเครน และสหรัฐ ต่างก็ปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว