Hibrary ห้องสมุดออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็อ่านได้ทุกที่

Hibrary ห้องสมุดออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็อ่านได้ทุกที่

Hibrary ระบบห้องสมุดออนไลน์สําหรับองค์กร หลังจากเปิดตัวราวปี 2560 ก็เตรียมพร้อมที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดดขานรับพฤติกรรมการอ่านของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ที่เปลี่ยนไปตามการพัฒนาของเทคโนโลยี แต่ก็สะดุดทันทีเช่นกันจากการมาของโรคโควิด-19

ในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส เมื่อโรคโควิด-19 และการล็อกดาวน์ ทำให้เกิดพฤติกรรมใหม่ในสังคมไทยและในองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะการทำงานที่บ้าน (WFH) ที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงมากมายๆ

หนึ่งในนั้นคือ การปฏิรูปโฉมหน้าห้องสมุดและการอ่าน จากที่อ่านเป็นเล่ม เมื่อเดินทางไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนมาอ่านในรูปแบบ อีบุ๊ก

การเข้าใช้บริการห้องสมุดลดน้อยลง องค์กรตัดสินใจปรับลดขนาดห้องสมุดแล้วนำแพลตฟอร์มห้องสมุดออนไลน์มาทดแทน จึงเป็นโอกาสแจ้งเกิดให้กับ Hibrary

มองหาโอกาสจากวิกฤติ

Hibrary  เป็นหนึ่งในกลุ่มธุกิจของบริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  MEB ธุรกิจประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ได้เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน MAI เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 จึงเสริมสร้างความมั่นใจและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการกับลูกค้าองค์กรต่างๆ ของ Hibrary ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในผลกระทบจากโรคโควิด-19 ทุกองค์กรปรับรูปแบบห้องสมุดมาเป็นออนไลน์ เช่น ลดขนาดห้องสมุด พนักงานทำงานแบบไฮบริดเวิร์กมากขึ้น โดยเฉพาะพนักงานรุ่นใหม่เจนวายต้องการ WFH แบ่งจาก 5 วันทำการ การใช้งานห้องสมุดก็ลดลง จึงเป็นจุดที่เราเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดองค์กร

Hibrary ห้องสมุดออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็อ่านได้ทุกที่

พัฒนา พิลึกฤาเดช ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด กล่าวว่า หลังจากโควิดเริ่มคลี่คลายในปีที่แล้ว โรงเรียนเริ่มเปิดการเรียนการสอน หน่วยงานต่างๆ เริ่มเปิดทำการปกติ เราคาดการณ์ธุรกิจ E-library น่าจะโตมากกว่านี้

แต่ปรากฏว่าองค์กรใช้งบประมาณไปกับโควิดแล้วชะลอการลงทุนพัฒนาด้านอื่นๆ และที่สำคัญการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐจะต้องทำข้ามปี หมายความว่าปีนี้เราตกขบวนไปแล้ว และต้องรอปีงบประมาณปีหน้าต่อไป ทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ 400 รายก็พลาด

โชคดีที่บริษัทได้พันธมิตรทางการที่ดีอย่างศูนย์หนังสือจุฬาฯ มาช่วยทำการตลาด โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและฐานลูกค้าของทางศูนย์ฯ จึงสามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา

ทำให้สิ้นปี 2565 มีลูกค้าองค์กรรวมกว่า 100 แห่ง ครอบคลุมทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ บริษัทเอกชน โรงพยาบาลและห้องสมุดประชาชน พร้อมอีบุ๊กจากสำนักพิมพ์ต่างๆ มากว่า  10,000 รายชื่อ 

ตามมาด้วยการทำโปรเจกต์ร่วมกับ TK Park อุทยานการเรียนรู้ ในการพัฒนาห้องสมุดดิจิทัล TK Read หลังจากเปิดตัวเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 ได้รับความพึงพอใจจากผู้ใช้งานถึงความสะดวกในการใช้งานและฟีเจอร์การอ่านที่สะดวกมากกว่าเดิม

Hibrary ห้องสมุดออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็อ่านได้ทุกที่

แอปพลิเคชัน TK Read จาก TK Park ตอบเทรนด์การอ่านและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรักหนังสือที่หันมาอ่านในรูปแบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ภายในแอป TK Read อัดแน่นด้วยอีบุ๊ก อีแมกกาซีน ออดิโอบุ๊ก และคอร์สออนไลน์ภาษาไทย หลากหลายหมวดหมู่

ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งสายท่องเที่ยว วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ธุรกิจและการลงทุน คอมพิวเตอร์ และหนังสือเด็ก เป็นต้น

ทั้งยังสามารถแนะนำหนังสือที่ตรงกับความสนใจได้อีกด้วย ช่วยให้หาหนังสือได้ง่ายและสะดวกกว่าที่เคย ส่งผลให้ขึ้นแท่นแอปที่มีจำนวนยอดผู้ใช้งานอันดับ 1 ในไอแพด สร้างสถิติใหม่ให้ TK Park

ขณะที่ Hibrary ได้รับอานิสงส์ในเรื่องโอกาสทางธุรกิจในการเข้าสู่กลุ่มโรงเรียนต่างๆ มากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงองค์กรรัฐ และบริษัทเอกชนขนาดใหญ่

ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ ความร่วมมือกับ “กรุงเทพมหานคร” เตรียมจะเปิดตัวแพลตฟอร์มห้องสมุดประชาชนดิจิทัล (KK X Hibrary อีบุ๊กฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่) ต้อนรับเทศกาลการอ่านและหนังสือกรุงเทพฯ (Read & Learn)

เบื้องต้นมีหนังสือให้เข้ามาอ่านประมาณ 500 เล่มในเฟสแรก จากนั้นจะหาความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อเพิ่มจำนวนหนังสือในห้องสมุดดิจิทัลของ กทม.ให้ได้ 1,000 ปก เพื่อส่งเสริมการอ่านให้กับคนรุ่นใหม่ในกรุงเทพฯ

Hibrary ห้องสมุดออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็อ่านได้ทุกที่

ประชาชนใน กทม. สามารถเข้ามายืมอ่านอีบุ๊กได้ฟรี จากสื่อการเรียนรู้ ต่างๆ ทั้ง วรรณกรรม จิตวิทยา พัฒนาตนเอง   รวมถึงมีอีบุ๊กในรูปแบบ E-PUB ที่รองรับสำหรับกลุ่มที่มีปัญหาในการอ่าน(Accessible) อีกทั้งเปิดให้ผู้ใช้งานเข้ามามีส่วนร่วมในการคัดเลือกอีบุ๊กเข้าระบบให้เดือนถัดๆ ไป

ทั้งนี้ ไฮบรารี่ พัฒนาขึ้นจากการศึกษาปัญหาของระบบห้องสมุดออนไลน์ที่มีอยู่ โดยพบว่าส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้านการบริหารจัดการ การใช้งาน และงบประมาณ

ซึ่งมากกว่า 75% ขององค์กรส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ ในการใช้ทรัพยากรที่ซื้อหรือพัฒนามาอย่างคุ้มค่าและต่อเนื่อง  ทั้งที่ใช้งบประมาณตั้งแต่ 5 แสน - 3 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบห้องสมุดออนไลน์ 

แต่เหลืองบประมาณในการซื้อหนังสืออีบุ๊กที่เป็นทรัพยากรสำคัญเพียง 10-20% ทำให้อีบุ๊กในระบบน้อยเกินไป ไม่มีอีบุ๊กใหม่เพิ่มเติมในแต่ละเดือน และไม่เป็นที่น่าสนใจของผู้ใช้งาน หรือบางครั้งหนังสือที่มีอยู่ก็ไม่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งาน

ทำให้ยอดการใช้งาน E-library ไม่เติบโต บางองค์กรมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไม่ถึง 100 ครั้ง สวนทางกับจำนวนบุคลากร หรืองบประมาณที่ลงทุนไป

Hibrary ห้องสมุดออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็อ่านได้ทุกที่

จุดเด่นของ ไฮบรารี่ จึงอยู่ที่การสร้างระบบการบริหารงาน การให้บริการและการใช้งาน ที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

โดยในส่วนลูกค้าองค์กร ไม่ต้องใช้งบในการพัฒนาระบบที่สูง แต่มีระบบบริหารจัดการที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ รวมถึงระบบอัปโหลดทรัพยากรขององค์กรเองทั้ง อีบุ๊ก , วีดีโอ หรือ พอดคาสต์

 อีกทั้งสามารถเรียกดูข้อมูลสถิติโดยเฉพาะเวลาการอ่าน เพื่อนำมาวิเคราะห์และวัดผลความคุ้มค่าของการใช้ทรัพยากรที่ให้บริการอย่างคุ้มค่า ไม่มีค่าดูแลและค่าบำรุงรักษาระบบ (Maintenance Agreement) รายปี

แต่การันตีว่าแอปพลิเคชันรองรับทั้ง Android และ IOS ใหม่ล่าสุดและมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ซึ่งอัปเดตการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ปรับฟีเจอร์ให้ทันต่อเทรนด์หรือสถานการณ์ปัจจุบันได้ทันท่วงที อีกทั้งยังช่วยผลิตสื่อ หรือบทความต่างๆ ในการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง.