ประณามการทำผิดกฎหมาย! หลังรักษาการเลขาฯกสทช. ใช้อำนาจโดยมิชอบปลด “หมอลี่”

ประณามการทำผิดกฎหมาย! หลังรักษาการเลขาฯกสทช. ใช้อำนาจโดยมิชอบปลด “หมอลี่”

กลุ่มผู้บริโภคและภาคประชาสังคมร่วมกันประณามการกระทำของ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาฯกสทช. ที่ออกคำสั่งปลด “หมอลี่” หรือ นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ที่ปรึกษาประธาน กสทช. ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยทันที

ผู้สื่อข่าวรายงาน สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ออกแถลงการณ์ ประณามการ กระทำของนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ สำนักงาน กสทช. ที่กระทำการโดย ถือว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ และผิดระเบียบ กสทช. ที่เลขาธิการมิได้มีอำนาจปลดที่ปรึกษาประธาน กสทช.

อีกทั้ง การกระทำครั้งนี้ส่อให้เห็นพฤติกรรมที่ต้องการรวบอำนาจการบริหาร กสทช. และกำจัดเสี้ยนหนามภายในใช่หรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา อดีตกรรม กสทช. มีความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและกฎระเบียบของ กสทช. มายาวนาน ซึ่งที่ผ่านมามีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ด้านการรักษาผลประโยชน์สาธารณะเป็นที่ตั้ง

นอกจากนี้ เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า การปลดฟ้าผ่าในครั้งนี้อาจเกี่ยวพันกับการรายงานผลของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก ซึ่งนายแพทย์ประวิทย์ เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการ และต่อมาผลของการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้นำไปสู่การพิจารณาของบอร์ด กสทช. ที่มีเสียงข้างมากให้ปลดนายไตรรัตน์เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ประธานบอร์ด กสทช. นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ กลับไม่ลงนามตามมติดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่การปลดนายไตรรัตน์มีผลแล้ว ตามมติเสียงข้างมาก ทำให้นายไตรรัตน์ใช้อำนาจโดยมิชอบออกคำสั่งปลดเจ้าหน้าที่บริหารภายใน กสทช. เป็นจำนวนมาก รวมทั้งการปลดนายแพทย์ประวิทย์ในฐานะที่ปรึกษาประธาน กสทช. 

ทั้งนี้ กว่า 25  ปีที่ผ่านมา นายแพทย์ประวิทย์ มีผลงานโดดเด่นด้านการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งในระหว่างช่วงดังกล่าวได้เข้ามาทำงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านโทรคมนาคม โดยเริ่มจากการเป็นผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการคมนาคม (สบท.) ระหว่างปี 2550 - 2554 และต่อมาได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม ระหว่าง ปี 2554 - 2565 จนปัจจุบันนี้

ถือได้ว่านายแพทย์ประวิทย์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการโทรคมนาคมทั้งด้านความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยี ด้านกฎหมายและการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างหาคนเทียบได้ยาก การทำงานในช่วง 1 ปี ของนายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา (ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา ประธาน กสทช. เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565) นั้น นายแพทย์ประวิทย์ได้ดำรงตำแหน่งอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน ดังนี้ 

1. ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม 
2. ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจ ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จากัด (มหาชน) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง
3. หัวหน้าคณะทำงานพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งโทรศัพท์ (Call Center) และข้อความสั้น (SMS) หลอกลวง
4. ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามและประเมินผลการรวมธุรกิจตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม 
5. คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี การดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
6. ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการด้านการแข่งขันและราคา
7. ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด และบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง

การปลดนายแพทย์ประวิทย์จากตำแหน่งดังกล่าวจึงไม่อาจตีความอย่างอื่นไปได้นอกจากเป็นการขจัดเสี้ยนหนามของการรวมอำนาจเพื่อแสวงหาประโยชน์ใน กสทช.