โมเดลธุรกิจยุคดิจิทัล อาหารปรุงสด 'เซเว่น อีเลฟเว่น'

เพราะชีวิตประจำวันของคนในโลกยุค 4.0  หรือยุคดิจิทัลเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ส่งผลให้ "ความสะดวกสบาย รวดเร็ว" สามารถจับจ่ายใช้สอยได้ง่าย ได้กลายเป็นคีย์เวิรด์สำคัญที่ธุรกิจค้าปลีกต้องคำนึงถึงและพยายามปรับธุรกิจให้สอดรับกับความต้องการที่เกิดขึ้น

​ว่ากันว่าโลกยุคนี้ยังเป็นยุคที่ "ปลาเร็วกินปลาช้า"  หมายความว่า หากใครปรับตัว หรือปรับโมเดลธุรกิจให้สามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้เร็วกว่า  ก็จะกลายเป็นผู้ชนะที่อยู่รอดปลอดภัย

​เช่นการเปิดบริการ "อาหารปรุงสด" ของ "ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น" เพื่อให้เป็นหนึ่งในทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค ซึ่งเป็นคนวัยทำงาน ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา ที่เวลาตื่นและเวลานอนมักไม่ค่อยเป็นเวลา นอกจากนี้ส่วนใหญ่ก็มักอาศัยกันในคอนโดมีเนียม หรืออพาร์ทเมนท์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับออฟฟิศที่ทำงาน และสถานศึกษา  ดังนั้นโอกาสที่พวกเขาจะปรุงอาหารเพื่อรับประทานเองจึงมีความเป็นไปได้น้อยมาก

​เซเว่น อีเลฟเว่น  ได้เปิดให้บริการอาหารปรุงสด และมีเมนูอาหารคาวหวานเพียงไม่กี่รายการ แตกต่างจากอาหารตามสั่ง โดยทั่วไปเข้าใจว่า เป็นอาหารที่ทำตามสิ่งที่ลูกค้าสั่ง โดยใช้วัตถุดิบง่าย ๆ มีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากมากและมีให้เลือกหลากหลายเมนู บางร้านมีรายการให้ลูกค้าเลือกเป็นเล่ม เช่น ผัดกะเพรา ไข่ดาว, ข้าวผัด, ผัดผัก, สุกี้, ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว  เป็นต้น  แต่เมนูในร้านเซเว่นฯ แตกต่างอย่างสิ้นเชิง โดยเน้นเมนูที่เป็นฟิวชั่นฟู้ด มีเพียงไม่กี่รายการ เช่น อเมริกันเบรคฟาสท์ ข้าวไข่ข้น โจ๊ก  เน้นรสชาติกลาง ๆไว้ให้บริการลูกค้าแบบง่ายๆและรวดเร็ว

อีกทั้งได้กำหนดช่วงเวลาให้บริการอยู่ในช่วง 6 โมงเช้าไปจนถึง 4 ทุ่มตรง นอกจากนี้จะเปิดบริการอาหารปรุงสดในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นที่อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมกับผู้บริโภคเท่านั้น เช่น ตามสถานศึกษา ออฟฟิศ หรือที่พักอาศัย จุดต่อรถ โรงงาน ฯลฯ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการความสะดวกและรวดเร็ว ตอบรับชีวิตคนเมืองที่ในช่วงเช้ามักต้องการความเร่งด่วน หรือในช่วงดึกๆ ที่มักหาทานอาหารได้ลำบาก มีความเดือดร้อนเพราะเป็นช่วงเวลาที่ร้านอาหารและร้านค้าทั่วไปปิดให้บริการแล้ว

​"ปลาเร็วกินปลาช้า" แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับคำว่า  "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก"  เพราะบริบทต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาตั้งแต่เมนูอาหารที่ปรุงสดแบบง่ายๆ เป็นอาหารฟิวชั่นเพียงไม่กี่เมนู ย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ อย่างแน่นอน

​ในทางตรงข้ามทำเลที่ตั้งร้านเซเว่นฯเป็นจุดสำคัญช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับบรรดาผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยที่อยู่รอบๆร้านเป็นการดึงผู้บริโภคสร้างกำลังซื้อให้เกิดขึ้น โดยที่ไม่ได้หวังเข้ามา “ทดแทน” หรือแย่งชิงลูกค้า แต่มุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภค ในช่วงเวลาที่ร้านค้าไม่เปิดให้บริการ หรือ ไม่สะดวกในการหาร้านอาหาร จึงหวังเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการบริการเท่านั้น

​นอกจากนี้เมื่อได้ลงไปสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยในพื้นที่ พวกเขาต่างมองว่าอาหารปรุงสดของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มีราคาสูงกว่า อีกทั้งเมนูอาหารมีความแตกต่างไปจากเมนูอาหารร้านของตนเอง ซึ่งทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น ลูกค้าได้มีโอกาสเลือกในสิ่งทีดี่ที่สุด ก็สุดแล้วแต่ว่าลูกค้าชื่นชอบสไตล์ไหน

พวกเขามองว่าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปรียบเหมือนเป็น “เพื่อนคู่ค้า” และอยู่ด้วยกันอย่าง “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นช่วยสร้างชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ขณะที่ชุมชนเองก็ได้รับความสุขสะดวกสบายจากร้านเซเว่น  อีเลฟเว่น ทำให้เกิดเศรษฐกิจชุมชน

​ปัจจุบันนอกจากเซเว่น อีเลฟเว่นแล้ว  ก็ยังมีร้านสะดวกซื้ออีกหลายแบรนด์ที่ขยับมีการปรับตัวกระจายสาขาเข้าสู่ชุมชนมากขึ้น เพื่อให้ความสะดวกและสบายให้กับชีวิตผู้คน และอาจกล่าวได้ว่าการเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงได้ช่วยทำให้ชุมชนที่เคยหลับใหล จากความมืดมิดให้กลับมามีชีวิตชีวาจากแสงไฟที่สว่างไสว เป็นที่พึ่งของคนในชุมชนให้รู้สึกถึงความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี