สภาฯไฟเขียว! รายงาน'Entertainment Complex ' ส่งรัฐบาลเดินหน้าต่อ

สภาฯไฟเขียว! รายงาน'Entertainment Complex '  ส่งรัฐบาลเดินหน้าต่อ

สภาฯ ไฟเขียวรายงาน “สถานบันเทิงครบวงจร” ส่งรัฐบาลดันต่อ "จุลพันธ์" ยันยังไม่ใช่ข้อยุติ อำนาจฝ่ายบริหารพิจารณาความหมาะสม ด้านสมาชิก 2 ฝั่งหนุน-ค้าน เทียบสิงคโปร์สร้างรายได้ 4.4 แสนล้านบาท "ก้าวไกล"ชำแหละไม่รอบคอบ- ประเดิม“อู่ตะเภา”ส่อฮั้ว 3 เอกชน

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่องศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร(Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว 

ที่ประชุมมีมติ253 ต่อ 0 เสียง "เห็นด้วย" กับรายงานกมธ.พร้อมเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะกมธ.จากนี้ จะส่งรายงานไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาต่อไป

โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานกมธ.ฯ กล่าวว่า ยืนยันว่า การศึกษาของกมธ.ฯไม่ใช่ข้อยุติ วันนี้สิ่งที่นำเสนอเป็นเพียงแค่รายงานการศึกษา หลังจากรายงานเข้าสู่สภาฯ วันนี้แล้ว หากที่ประชุมมีมติว่าเห็นชอบการศึกษาฉบับนี้ ก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการเดินหน้า หากรับแล้วก็คงต้องส่งให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของฝ่ายบริหารในการที่จะพิจารณาว่าโครงการพัฒนาลักษณะนี้มีความเหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่ 

เชื่อว่าทุกคนอาจจะมีความเห็นแตกต่างในเรื่องเนื้อหาของกฎหมาย และหากเป็นการเดินหน้าโดยฝ่ายบริหาร ก็ต้องส่งกลับมายังสภาฯ เพื่อพิจารณารายละเอียดของกฎหมายที่จะมาใช้ควบคุม
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมในการอภิปรายสมาชิกได้แสดงความเห็นเป็น 2 แนวทาง โดยฝั่งที่ไม่เห็นด้วย ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ครบถ้วนของการเปิดช่องไปสู่การพนันผิดกฎหมาย ขณะที่มาตรการควบคุมหลังมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เพื่อไม่ให้เกิดผลในทางลบ จะต้องมีความเข้มข้น

ขณะเดียวกันสมาชิกหลายคนยังแสดงความกังวลว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อาจเป็นแหล่งฟอกเงินผิดกฎหมาย เนื่องจากในรายงานยังไม่เห็นมาตรการที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว

แนะดึงป.ป.ง.เก็บข้อมูล

อาทิ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน และยาเสพติด สภาฯ ระบุว่า สถานการณ์ฟอกเงินในประเทศไทยขณะนี้ค่อนข้างที่จะรุนแรง ขณะที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่กำลังศึกษา ต้องยอมรับว่า รายได้มาจากกาสิโน เงินที่จะนำมาใช้จ่าย มาจากแหล่งเงินที่ใช้จ่ายแบบผิดกฎหมายหรือไม่ ฉะนั้นจึงเป็นห่วงว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือมีแหล่งรายได้จากกาสิโน จะเป็นแหล่งฟอกเงินที่สำคัญในอนาคตหรือไม่

สิ่งที่อยากเห็น คือมาตรการในการที่จะป้องกันเช่น มีการยืนยันตัวตน หรือรายงานธุรกรรมในการเอาเงินเข้ามาใช้ในกาสิโน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)เป็นหลักฐานเก็บไว้ หรือมีการรายงานธุรกรรมทางการเงิน ที่กาสิโนต้องรายงานต่อป.ป.ง.ในกรณีที่บุคคลใดก็แล้วแต่ ได้กำไร หรือเล่นพนันได้ในกาสิโน เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานว่า บุคคลเหล่านี้มีรายได้จากการเล่น เมื่อไหร่ และเท่าใด
 

“โรม”อัดล็อกสเปค “3ยักษ์ใหญ่”

เช่นเดียวกับนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.อภิปรายว่า จุดยืนพรรคก้าวไกล ไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้ แต่เห็นว่า วันนี้ยังไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า จะทำอย่างไรไม่ให้ซ้ำรอยสีหนุวิลล์ (กัมพูชา) แม้จะบอกว่าไม่ใช้โมเดลดังกล่าวแต่เป็นการยึดโมเดลสิงคโปร์ หรือโอซากา

ทั้งนี้เราต้องมีมาตรการในการรองรับ อาทิ มาตรการในเรื่องการป้องกันการฟอกเงิน การป้องกันธุรกิจสแกมเมอร์ หรือคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงมาตรการป้องกันการค้ามนุษย์ ซึ่งรายงานฉบับดังกล่าว เมื่อพิจารณาแล้วยังขาดความสมบูรณ์อยู่มาก ทั้งนี้ในชั้น กมธ.มีการประชุมทั้งหมด 11 ครั้ง แต่เฉพาะเดือน ธ.ค.2566 มีการประชุม 0 ครั้ง ม.ค.2567 ประชุม 2 ครั้ง ก.พ.ประชุม 2 ครั้ง เราใช้วิธีการแบ่งอนุฯ แล้วให้อนุฯ ไปทำ แล้วกลับมารายงาน คำถามคือ เรากำลังทำเรื่องที่ใหญ่มาก แต่มีการประชุมแค่นี้ การโฟกัสรายงานอย่างมีประสิทธิภาพ เราแทบทำไม่ได้เลย 

ขณะเดียวกันเห็นว่า เราควรเอาเรื่องการเสียภาษีของคนไทยเป็นหนึ่งในใบเปิดทางในการเข้ากาสิโน ไม่ใช่ใช้วิธีการแค่เก็บค่าเรียกเข้า ซึ่งเป็นข้อกังวลประเด็นการติดการพนัน และกระทบสถาบันครอบครัว ซึ่งถ้าใช้วิธีนี้จะเป็นการดึงให้คนเสียภาษีเพิ่ม

ในรายงานมีการรายงานว่า จังหวัดที่มีประสิทธิภาพมี 44 จังหวัด โดยที่แรก ที่จะทำคือที่อู่ตะเภา รวมทั้งมีการเซ็นสัญญาระหว่างกลุ่มบริษัท ประกอบด้วย บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัทบีทีเอส และ Bangkok Airways สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ความโปร่งใสอยู่ตรงไหน เท่ากับว่า ท่านล็อกไว้แล้วหรือไม่ ว่ากาสิโนจะอยู่ภายใต้การผูกขาด หรือดูแลของใคร

“สิงคโปร์โมเดล”สร้างรายได้ 4.4 แสนล.

ขณะที่ กลุ่มสนับสนุน อาทิ นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคท้องที่ไทย ซึ่งเคยเสนอนโยบายหาเสียง “งานศพไม่เศร้า เขย่าได้” ได้อภิปรายถึงการพนันพื้นบ้านว่า อันที่จริงการพนันอยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลานาน จนลงรากฝังลึก แม้กระทั่งกรณีที่ปรากฎข่าว วันนี้ถึงเวลาแล้ว ที่ควรเอามาไว้บนดิน และหาระเบียบข้อบังคับ ดูแลให้เข้าที่เข้าทาง

ทั้งนี้เสนอให้มีการแก้ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2475 โดยเฉพาะกรณีการเล่นการพนันในงานศพ โดยอาจมีข้อยกเว้น ในกรณีงานศพที่ไม่ได้จัดที่วัด เป็นต้น ทั้งนี้ การแก้ปัญหาขอให้แก้ทั้งระบบ เพื่อให้การกระตุ้นเศรษฐกิจดีขึ้น

เช่นเดียวกับ นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เห็นด้วยกับการเปิดสถานบันเทิงครบวางจร โดยมองว่า การเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เปิดธุรกิจกาสิโนเพียงอย่างเดียว ถือเป็นเรื่องที่ผิดฝาผิดตัว เพราะไม่ใช่การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ดังที่ กมธ.มีการศึกษา ขณะนี้มีความเข้าใจผิดว่า การเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คือฟรีกาสิโน ซึ่งนายจุลพันธ์ ได้ชี้แจงไปแล้วว่า เป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้น ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขรายละเอียด 

ส่วนข้อกังวลของสมาชิกหลายคน ว่าจะทำให้คนไทยติดการพนันเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า ตั้งแต่การหารือในชั้น กมธ.ฯ มุ่งเป้าไปที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มากกว่ากาสิโนเพียงอย่างเดียว โดยรายงานได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ไม่ใช่แค่เรื่องการเปิดกาสิโน แต่กาสิโนเป็นแค่ส่วนหนึ่งในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เท่านั้น 

ยกตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้าน ที่สิงคโปร์ Marina Bay Sands ที่ใช้พื้นที่กาสิโนเพียง 15,000 ตารางเมตร หรือ 2.5% จากพื้นที่ 5.8 แสนตารางเมตร เป็นต้น โดยในปี 2022 สิงคโปร์มีสัดส่วนจีดีพีอยู่ที่ 4% สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้คนท้องถิ่นกว่า 2 หมื่นคน คิดเป็นภาพรวม 1.2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ หรือ4.4 แสนล้านบาท กาสิโนจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้ประเทศ

ทั้งนี้ในรายงานถือว่าครอบคลุมทั้งแนวทางการจัดระเบียบอย่างรัดกุมทั้งคุณสมบัติผู้ประกอบการ การจัดเก็บภาษี การบรรเทาผลกระทบด้านต่างๆ ดังนั้นการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะช่วยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยวรวมทั้งส่งเสริมมูลค่าทางเศรษฐกิจฐานราก การจ้างงานและการลงทุนต่อไป