สมศักดิ์ ชี้ สถานการณ์น้ำยังน่าห่วง เตือน ภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม

สมศักดิ์ ชี้ สถานการณ์น้ำยังน่าห่วง เตือน ภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม

“สมศักดิ์” เผย สทนช. รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมยังน่าห่วง สั่งบูรณาการทำงานเต็มที่ บรรเทาความเดือดร้อน ปชช. เตือน “เชียงใหม่-ตาก-ลำพูน-ลำปาง-กำแพงเพชร” เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้รับรายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ จาก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)  โดยมีเรื่องที่ตนยังเป็นห่วง จึงอยากช่วยประชาสัมพันธ์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ เพราะเรื่องนี้ทางรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญและเป็นห่วงพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้กำชับทุกหน่วยงานในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ให้บูรณาการทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมที่ตนเป็นห่วงคือ ในระหว่างนี้ จนถึงวันที่ 7 ตุลาคมจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม เนื่องจากได้รับอิทธิพลของร่องมรสุมทำให้มีฝนตกหนักได้แก่ จ.เชียงใหม่ (อ.จอมทอง แม่แจ่ม อมก๋อย แม่วาง แม่แตง ฝาง ตอยเด่ ฮอด ดอยสะก็ดและกัลยาณิวัฒนา) จ.ตาก (อ.เมืองตาก ท่าสองยาง สามเงา บ้านตาก แม่ระมาด วังเจ้า อุ้มผางแม่สอต และพบพระ) จ.กำแพงเพชร (อ.โกสัมพีนคร คลองสาน และปางศิลาทอง) จ.ลำพูน (อลี้และทุ่งหัวช้าง) จ.แพร่ (อ.วังชิ้น และลอง)

จ.ลำปาง (อ.เกิน แม่ทะ เริมงาม และเกาะคา) 

รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อว่า ส่วนจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำคือ 1.แม่น้ำวัง ได้แก่ อ.สามงา และบ้านตาก จ.ตาก  2.แม่น้ำยม ได้แก่ อ.สวรรคโลก ศรีนคูรศรีสำโรง ศรีสัชนาลัย ทุ่งเสลี่ยม และเมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย  3.แม่น้ำเจ้าพระยา คาดการณ์จะมีน้ำหลาก จากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำคลองโผงผง จ.อำงทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุ่ธยาและต.หัวเวียงอ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ทำตินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นประมาณ1.00 -1.50 ม. ทั้งนี้ ในส่วนของภาคอื่นๆที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม ในช่วง 1-3 วัน ยังมี ศรีสะเกษสระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด และนราธิวาส

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ความเสียหายในพื้นที่เกษตรกรรม ขณะนี้ เสียหายแล้ว 18 จังหวัดรวม 314,829 ไร่ ได้แก่ ลำพูน สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ชัยภูมิยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครพนม สกลนคร ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรีสุพรรณบุรี และอ่างทอง ซึ่งเรื่องนี้ รัฐบาลกำลังพิจารณาถึงมาตราการช่วยเหลือ โดยขอให้มั่นใจและย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง