"อภิสิทธิ์" ชี้ ม.272 เครื่องมือต่อรอง จัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

"อภิสิทธิ์" ชี้ ม.272  เครื่องมือต่อรอง จัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

"นักวิชาการ" แนะ ปชช. ศึกษานักการเมือง-นโยบายให้ดี ก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง หากจะป้องกันประเทศซ้ำรอยเดิม "อภิสิทธิ์" ชี้ ม.272 เครื่องมือต่อรองตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมมของประชาชน วุฒิสภา ร่วมกับ สถาบันประเทศไทยต่อต้านการทุจริต แห่งมหาวิทยาลัยรังสิต จัดเสวนา การเลือกตั้งปี66 ส่วนร่วมของประชาชนกับอนาคตของประเทศไทย

 

โดยนายวิชา มหาคุณ  คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวบรรยายในหัวข้อ การเลือกตั้งปี2566 กับส่วนร่วมของประชาชนกับการต่อต้านคอร์รัปชั่น ตอนหนึ่งว่า  ประชาชนมีสิทธิที่จะตรวจสอบและเอาผิดนักการเมืองได้ ผ่านการยื่นเรื่องร้องไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ที่ผ่านมีกรณีที่ ส.ส. ยึดที่สาธารณะที่ของประชาชนเป็นของตนเอง ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง แม้จะเพิ่งเริ่ม 1-3 คน แต่จากนี้จะไม่มีใครกกล้าทำสิ่งที่ไม่ดีกับประชาชนอีก อย่างไรก็ดีการตรวจสอบนักการเมืองนั้นสิ่งสำคัญคือการบังคับใช้กฎหมายที่ตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพ

 

\"อภิสิทธิ์\" ชี้ ม.272  เครื่องมือต่อรอง จัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

จากนั้น เป็นการเปิดเวทีเสวนา เรื่อง การเลือกตั้งปี66 ส่วนร่วมของประชาชนกับอนาคตของประเทศไทย  โดยมีนักการเมืองที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

 

โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเทศที่เป็นประชาธิปไตย กระบวนการเลือกตั้งมึความสำคัญ โดยในประเทศไทย มีปัญหาที่ตกค้างมาจากรัฐธรรมนูญ คือ มาตรา 272 ให้ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ในระบบรัฐสภา พรรคการเมืองที่รวมเสียงข้างมากได้จัดตั้งรัฐบาล โดยทั้งหมดเป็นผลโดยตรงจากการเลือกตั้งและตามที่ประชาชนลงคะแนน ซึ่งการให้อำนาจส.ว. 250 คนเลือกนายกฯ ทำให้เกิดคำถามว่ากระบวนการเลือกตั้งโดยประชาชน มีสิทธิกำหนดอนาคตของประเทศมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้มาตราดังกล่าวถูกเชื่อมโยงเกี่ยวกับการหาเสียงของพรรคการเมือง ทั้งการแข่งขันในประเด็นแลนด์สไลด์ ปิดสวิตซ์ส.ว. อย่างไร ขณะที่ฝั่งที่มีอำนาจถือมาตราดังกล่าวใช้ต่อรองจัดตั้งรัฐบาล

 

\"อภิสิทธิ์\" ชี้ ม.272  เครื่องมือต่อรอง จัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

“ประเทศมีความท้าทาย และปัญหาต่างๆ การเลือกตั้งรอบนี้ประชาชนคาดหวังให้พรรคตอบคำถามในแนวทาางแก้ปัญหาด้วยวิธีใด ให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น แต่เมื่อมีมาตรา 272 ทำให้ไม่เป็นเช่นนั้น มีคำถามว่า2ลุงจะไปกันอย่างไร ทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์รับรู้นโยบาย ในการเลือกตั้งรอบนี้ผมเชื่อว่าการซื้อเสียงหนัก ไม่ใช่การประมูลประชาชน แต่ประชาชนรับเเงินจากทุกพรรคที่ซื้อเสียง ทำให้ไม่เลือกที่ตัวนโยบาย ผมหวังว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป ที่ไม่ใช่ภายใน1ปีจากนี้ เพราะยังจะยังอยู่ในอำนาจต่อ ผมขอย้ำว่าการเลือกตั้งต้องศึกษาที่มาของนักการเมืองและพรรคการเมือง เพื่อไม่ซ้ำรอยเข้าสู่วงจรเดิมให้ประเทศไทยไม่ไปไหน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

 

 

“การหาเสียงคือการพูดนโยบายเพื่อเอาใจประชาชน ไม่มีใครบอกว่าจะเข้าไปโกง โกงทั้งโคตร ดังนั้นประชาชนต้องศึกษา เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่การลองผิดลองถูก ต้องมีความมั่นใจก่อนการเข้าคูหา หากทำแบบนี้จะมีโอกาสอย่างน้อย แม้กติกาสับสน หลังเลือกตั้งจะต่อรองระหว่างพรรคการรเมือง แต่บังคับให้พรรคการเมืองพูดต่อสาธารณะแล้ว จะทำให้เกิดการตรวจสอบได้ ซึ่งช่วงนี้เป็นโอกาสทองที่ประชาชนจะเข้าถึงนักการเมือง เพราะหลังเลือกตั้งจะไม่มีโอกาสแบบนี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าาว

 

 

ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ฐานะอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่าในนโยบายของพรรคการเมืองที่นำเสนอปัจจุบันล้วนมีแต่สิ่งที่ดี แต่สิ่งที่ประชาชนต้องตระหนักรู้ และอย่าเลือกพรรคที่จะให้เงินทันที เพราะทำไม่ได้ ภายในงบประมาณ ปี2567 เพราะขณะนี้กระบวนการจัดทำงบประมาณทำไว้แล้ว  รอเฉพาะเสนอต่อสภาฯ โดยรายละเอียดของการทำงบ คือ  80% เป็นงบที่จ่ายตามกฎหมายไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนอีก20% เป็นงบรายจ่ายเพื่อการลงทุน ซึ่งตามกฎหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐ กำหนดให้งบลงทุนไม่น้อยกว่า 20% ของงบรายจ่ายประจำปี ดังนั้นงบลงทุนไม่สามารถใช้เป็นงบเพื่อสนับสนุนสวัสดิการให้ประชาชน แม้จะรีดไขมันอาจทำได้เล็กน้อย แต่นโยบายแจกเงินของพรรค ไม่สามารถทำได้ทันทีทั้งหมด

\"อภิสิทธิ์\" ชี้ ม.272  เครื่องมือต่อรอง จัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

“หากจะกู้เงินเพื่อนำมาใช้ในนโยบายของพรรคการเมือง  ต้องรู้ว่าหนี้สาธารณะของไทย ปัจจุบันมี  10.3ล้านล้านบาท หรือ 61% หากกู้อีก 4แสนล้าน ทำให้อัตราหนี้เพิ่มขึ้น หากรัฐบาลจะกู้เงินมา เพื่อให้เศรษฐา หรือ อุ๊งอิ๊งได้เงิน1หมืนบาท เพื่อนำไปซื้อของ เหมาะสมหรือไม่ต้องพิจารณารายละเอียดเรื่องดังกล่าวด้วย” นายสมชัย กล่าว

 

 

นายสมชัย กล่าวด้วยว่าการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ต้องมีมารยาทการเมืองและมีการปฏิบัติเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ หากอยู่ในสังคมที่มีมารยาทการเมืองต้องให้เกียรติกับพรรคการเมืองได้เสียงมากสุด ให้พยายามตั้งรัฐบาลก่อน  แต่ไม่ใช่จับมือกับ ส.ว. เพื่อต่อรองบางอย่าง ดังนั้นการให้เกียรติและโอกาสต้องเป็นธรรม ถึงที่สุดหากส.ส.ไม่มีใครจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคที่เสียงอันดับหนึ่ง เพราะประวัติไม่ดี เป็นพรรคน่ารังเกียจ จึงควรเป็นโอกาสของพรรคลำดับที่สองและที่สาม.