"ยุทธพร" เชื่ออุณหภูมิการเมืองเดือด หลังปลุกกระแสมวลชนแดงสู้ปรองดอง

"ยุทธพร" เชื่ออุณหภูมิการเมืองเดือด หลังปลุกกระแสมวลชนแดงสู้ปรองดอง

"ยุทธพร" มองบรรยากาศเลือกตั้งร้อน หลัง พรรคการเมืองปลุกกระแสมวลชนเสื้อแดง สู้ "ประวิตร" ที่ชู "ก้าวข้ามขัดแย้ง-สร้างความปรองดอง"

นายยุทธพร อิสรชัย นักวิชากรด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวต่อประเด็นการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งยกประเด็นเหตุการณ์สลายคนเสื้อแดงปี2553 เทียบกับความพยายามสร้างความปรองดองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรงมากขึ้น เพราะการเลือกตั้งปัจจุบันตนมองว่ายังมีประเด็นของการแบ่งขั้วทางการเมือง  ดังนั้นการใช้เทคนิคทางการเมือง หรือเรื่องในอดีตมาโจมตี เพื่อหาเสียงถือเป็นเรื่องปกติ 

 

"ความเห็นต่างไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่ความขัดแย้งนั้นมีปมหลายอย่าง รวมถึงกรณีที่รองนายกฯ พยายามบอกให้ก้าวข้ามขัดแย้ง แต่อดีต พล.อ.ประวิตร คือ ส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ทั้ง เป็นหนึ่งใน คสช. ที่รัฐประหาร แม้วันนี้จะบอกว่าเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่ผมมองว่าคือยุทธศาสตร์หาเสียงเท่านั้น” นายยุทธพร กล่าว

 

 

 

 

นายยุทธพร กล่าวด้วยว่า การเมืองที่อยู่ท่ามกลางการแบ่งขั้ว และความขัดแย้ง 8 ปีที่ผ่านมา พบปัญหาใหญ่คือการไม่เปิดพื้นที่เห็นต่างและพยายามกดทับความเห็นต่างไว้ อย่างไรก็ดีความเห็นต่างเชิงอุดมการณ์ อาจใช้ปลุกมวลชน สร้างกระแสได้ แต่สิ่งที่ต้องจับตา คือการแบ่งขั้วด้วยการใช้อารมณ์ความรู้สึก ที่ตนมองว่าจะมีผลต่อการเมือง เช่น การเลือกตั้งในกทม. ที่มีการปลุกกระแสเผาบ้านเผาเมือง และผีทักษิณ ที่ทำให้พลิกคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ได้ 

 

“การปลุกกระแสเสื้อแดงของพรรคการเมืองบางพรรค อาจได้มวลชนในการสร้างกระแส แต่การเมืองที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกความรู้สึก สามารถใช้เป็นส่วนการตัดสินใจกาคะแนนได้  แต่อย่าลืมว่ายังมีอีกกลุ่มขั้วตรงข้ามเช่นกัน โดยทั้ง 2 กลุ่ม ทั้ง ฝั่งอนุรักษ์นิยม และเสื้อแดง พลังอ่อนแรงลงเยอะ และปัจจุบันไม่ใช่ขั้วที่แสดงพลังหลัก แต่คือพลังของคนรุ่นใหม่” นายยุทธพร กล่าว