แก๊งมอดไม้อาละวาด ตระเวนตัดไม้พะยูงในโรงเรียน หลัง ยกเลิกครูเวร

แก๊งมอดไม้อาละวาด ตระเวนตัดไม้พะยูงในโรงเรียน หลัง ยกเลิกครูเวร

แก๊งมอดไม้อาละวาด ลักลอบตัดไม้พะยูงอายุ 100 ปี ในโรงเรียน หลัง ยกเลิกครูเวร ด้าน รักษาการ ผอ. โรงเรียนบ้านจำนัก จ.มหาสารคาม เผย มีคนติดต่อขอซื้อไม้พะยูง กว่า 10 ราย ให้ราคาต้นละ 150,000 บาท แต่ทางโรงเรียนไม่ได้สนใจ คาดคนร้ายดูลาดราว เตรียมการมาอย่างดี

วันนี้ (26 ม.ค. 67) เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่โรงเรียนบ้านจำนัก ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีการลักลอบตัดไม้พะยูง อายุกว่า 100 ปีในโรงเรียน 

แต่คนร้ายยังไม่สามารถนำต้นพะยูงออกไปได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่มาเสียก่อน โดยคนร้ายได้หลบหนีไป ทิ้งสายไฟกว่า 10 เมตร ไว้ให้ดูต่างหน้า 

เมื่อไปถึงจุดที่บริเวณมีการตัดต้นพะยูง พบว่า ต้นพะยูงอายุกว่า 100 ปี ถูกตัด โดยคาดว่าคนร้ายได้ใช้เลื่อยไฟฟ้า เพราะพบสายไฟยาวกว่า 10 เมตร อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ลากออกไปยังถนน คาดว่าคนร้ายจะต่อสายไฟกับแบตเตอรี่รถยนต์ โค่นต้นพะยูงลงมา คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง 

 

แก๊งมอดไม้อาละวาด ตระเวนตัดไม้พะยูงในโรงเรียน หลัง ยกเลิกครูเวร

 

เมื่อคนร้ายโค่นต้นพะยูงได้แล้ว จะวัดความยาวของลำต้นประมาณ 2 เมตร และใช้เลื่อยตัด แต่ปรากฏว่าไม้เบียดกัน ทำให้เครื่องฝืด ไม่สามารถตัดไม้ต่อไปได้ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ทำให้ผู้ก่อเหตุทั้งหมดหลบหนีไป 

โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ลงพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บสายไฟเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี

ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีรถเข้ามาก่อเหตุ 2 คัน เป็นรถเก๋งและรถกระบะ เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ก่อนที่จะเลื่อยตัดไม้จนโค่นประมาณช่วงตีหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถเอาไม้ออกไปได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่มาเสียก่อน 

จากนี้ก็จะได้ไปไล่กล้องวงจรปิดในพื้นที่ ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีรถคนใดผ่านในพื้นที่และมีพฤติกรรมน่าสงสาย ก็จะได้ติดตามมาสอบถาม เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

แก๊งมอดไม้อาละวาด ตระเวนตัดไม้พะยูงในโรงเรียน หลัง ยกเลิกครูเวร

 

นางแปลงใจ แดงงาม รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านจำนัก กล่าวว่า เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 01.15 น. ตนได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้พะยูงของโรงเรียน ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งต้นสังกัด และกรรมการสถานศึกษา ซึ่งเมื่อมาดูที่เกิดเหตุก็พบว่าไม้พะยูงถูกตัดล้มลงแล้ว โดยกลุ่มคนร้ายมีความพยายามจะตัดเป็นท่อน 

 

แก๊งมอดไม้อาละวาด ตระเวนตัดไม้พะยูงในโรงเรียน หลัง ยกเลิกครูเวร

แก๊งมอดไม้อาละวาด ตระเวนตัดไม้พะยูงในโรงเรียน หลัง ยกเลิกครูเวร

 

ซึ่งคนที่เชี่ยวชาญด้านไม้บอกว่า ไม้มันเบียดเข้าหากันทำให้เลื่อยไฟฟ้าไม่สามารถทำงานต่อได้ มันฝืด มันติด เลยเอาไม้ไปไม่ได้ คิดว่าคนร้ายเอารถมาประมาณ 3 คัน คนร้ายไม่ต่ำกว่า 5-6 คน และมีการเตรียมการมาอย่างดี

ที่ผ่านมาเคยมีคนเข้ามาติดต่อขอซื้อไม้กว่า 10 ราย แต่ทางโรงเรียนก็ไม่ได้สนใจ บางเจ้าอยากได้มากช่วงที่ยังไม่ได้ปลดล็อค เคยมาให้ราคาถึงต้นละ 150,000 บาท 

ด้านนายประเสริฐ อายุ 69 ปี ชาวบ้าน เล่าว่า คนร้ายมากันไม่ต่ำกว่า 5 คน ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ตอนนั้นหมาเห่า ตอนแรกนึกว่ามีคนจะมาขโมยข้าว พอมีเสียงเลื่อยไม้ ก็แน่ใจว่าไม่ใช่โจรขโมยข้าว แต่เป็นโจรตัดไม้ 

ตาก็พายายไปซ่อนในห้องบอกให้ล็อกบ้าน ก่อนจะหลบออกจากบ้าน คลานไปตามป่า ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เพราะไม่กล้าเปิดไฟ กลัวว่าหากคนร้ายมีอาวุธก็จะถูกยิง เพราะกลุ่มขบวนการพวกนี้อาวุธต้องครบมืออยู่แล้ว พอกลับมาพร้อมกับผู้ใหญ่บ้านก็ได้ยินเสียง กลุ่มคนร้ายพูดกันว่า ถอยรถออกมา ถอยรถออกมา และหลบหนีไป

ตอนนี้ก็ยังสั่นอยู่ กลัวมาก ๆ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ที่แน่ ๆ มา 2 คัน คนประมาณ 6-7 คน ต้นพะยูง ต้นนี้คาดว่าอายุน่าจะมากกว่า 100 ปี มันถึงมีแก่นใหญ่ขนาดนี้ ที่ผ่านมามีคนเข้ามาบ่อย มาเจาะดูไม้ แต่จะให้บอกว่าเจ้าไหนมาขโมย ก็ตอบไม่ได้ เราอยู่ใกล้ก็จริง ก็ช่วยดูแลให้เท่าที่จะดูแลได้ 

พอมีคนมาลักลอบตัดไม้ ก็ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ อยากให้ทางการยกต้นไม้ให้โรงเรียนได้ทำประโยชน์ เพื่อที่จะได้มีปัจจัยไปบำรุงรักษาด้านอื่น ๆ เพราะลำพังผู้ปกครองก็ไม่มีรายได้มากเท่าไหร่ ซึ่งทางโรงเรียนก็เพิ่งจากมีภารโรงมาใหม่ไม่นานมานี้ 

 

แก๊งมอดไม้อาละวาด ตระเวนตัดไม้พะยูงในโรงเรียน หลัง ยกเลิกครูเวร

 

ส่วนนายสมควร ภูสีฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านจำนัก ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตนรับแจ้งจากตาประเสริฐ ว่ามีการลักลอบตัดไม้ จึงได้โทรแจ้งคุณครู และแจ้งตำรวจ ก่อนที่ตำรวจจะมาถึงในพื้นที่ แต่คนร้ายก็ได้หลบหนีไปแล้ว เหลือทิ้งไว้แต่สายไฟ ที่ลากยาวกว่า 10 เมตร 

โดยไม้ได้ล้มไปใส่ที่ยุ้งฉางของชาวบ้าน เสียหายเล็กน้อย ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากประตูโรงเรียนประมาณ 100 เมตร ตอนนั้นตนก็ไม่กล้าออกมาเพราะกลัวคนร้ายมีอาวุธ รอเจ้าหน้าที่ถึงก่อน ถึงจะออกมา คนร้ายก็หลบหนีไปแล้ว 

ที่ผ่านมาเมื่อหลายปีมาแล้ว ก็เคยถูกลักลอบตัดออกไป แต่ก็ไม่สามารถจับคนร้ายได้ ส่วนครั้งนี้ก็ไม่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้หรือไม่ 

ส่วนกล้องวงจรก็มีของโรงเรียน แต่คิดว่าน่าจะส่องมาไม่ถึงถนน ซึ่งต้นพะยูงที่ยังเหลืออยู่ก็เหลืออีกไม่กี่ต้น ซึ่งในการเฝ้าระวังต่อไปก็จะเรียกประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้มีการลัดลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่