ปรับขึ้น

ปรับขึ้น

ตั้งรับบริเวณแนวรับ 1600 จุด โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวันทำการก่อนหน้า

ตลาดหุ้นไทยวานนี้กลับมาฟื้นตัวหลังร่วง 5 วันต่อเนื่อง โดยดัชนี ตลาดฯ ปิดที่ระดับ 1610.49 จุด +2.38 จุด หรือ +0.15% ด้วยวอลุ่มซื้อขาย 5.03 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มโรงพยาบาล +1.22% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง +0.8% กลุ่มไฟแนนซ์ +0.64% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิวันแรกในรอบ 12 วันทำการ จำนวน 834.38 ล้านบาท

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Slightly Positive และคาดดัชนีฯ ปรับขึ้น แนวต้าน 1620 / 1625 จุด แนวรับ 1600 / 1592 จุด ปัจจัยสนับสนุนมาจากการคาดว่า FOMC Minute จะส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป และสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ อาจมีทางออก หลังสหรัฐฯ ยอมให้บริษัทสหรัฐฯ สามารถดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ยได้อีก 90 วัน ส่วนปัจจัยลบ คือ OECD ปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจโลกรอบใหม่และการส่งออกไทยเดือน เม.ย. คาดชะลอตัว

ไฮไลท์วันนี้อยู่ที่สหรัฐฯ: รายงาน FOMC Minute จับตาทิศทางดอกเบี้ย  สหรัฐฯ: สุนทรพจน์ประธานเฟด เซนต์หลุยส์ Bullard ไทยและญี่ปุ่น: รายงานดุลการค้า

ประเด็นสำคัญวันนี้

ไทย: 1Q19 GDP เติบโตต่ำกว่าคาด โดยเติบโต +2.8% YoY ต่ำสุดรอบ 17 ไตรมาส (Vs คาด +3% YoY) และคาดว่าปีนี้จะเติบโต 3.3-3.8% (จากเดิม 3.5-4.5%) เพราะภาคส่งออกที่หดตัวจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกขณะที่อุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้จ่าย
ภาคเอกชน ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว 4.6% และ 4.4% YoY และปรับลดเป้าหมายค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ปีนี้เป็น 31.1-32.10 บาท (จากเดิม 31.5-32.5 บาท)

OECD: ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้และปีหน้า เป็น 3.2% และ 3.4% (Vs เดิมคาด 3.5% และปี 2018+3.5%) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 30 ปี เป็นผลจากความตึงเครียดทางการค้าสร้างความไม่แน่นอนต่อการลงทุนและการค้า โดยการทำสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ จะกระทบเศรษฐกิจโลกมากกว่า 0.6% ในช่วง 2-3 ปี ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดเติบโตปี 2019-20 ที่ 2.8% และ 2.3% (Vs ปี 2018 +2.9%) จีนเติบโต 6.2% และ 6.0% (Vs ปี 2018 +6.6%) Eurozone เติบโต 1.2% และ 1.4% (Vs ปี 2018 +1.8%)

การเมืองไทย: พรรคปชป. ประชุม 23 พ.ค. บ่ายโมง เพื่อพิจารณาลงมติตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยพรรคมีเป้าหมายให้ประเทศเดินหน้าไปได้ สถาบันของชาติมีความมั่นคง รัฐบาลมีเสถียรภาพ และตอบสนองความต้องการของประชาชน Tech War: Google แถลงว่า บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ยฯ ต่อไปจนถึง 19 ส.ค. หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯอนุญาตให้สามารถอัพเดทซอฟท์แวร์ เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงสามารถใช้งานโทรศัพท์หัวเว่ยได้

กลยุทธ์

        ตั้งรับบริเวณแนวรับ 1600 จุด โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

           หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BEM STEC AOT

           หุ้นโมเมนตัมบวก SISB OSP HTC ลบ BEAUTY SYNEX DDD PSL

           Derivatives: รอเปิดสถานะ Long USSM19 เมื่ออ่อนตัว เป้าทำกำไร 32.00/ 32.10 และ Stop 31.60