จีนคุมเงินเสมือน-ห้ามขุดบิทคอยน์

จีนคุมเงินเสมือน-ห้ามขุดบิทคอยน์

หน่วยงานด้านการวางแผนของรัฐบาลจีนต้องการยุติขุดบิทคอยน์ ส่งสัญญาณแรงกดดันธุรกิจเงินเสมือนเพิ่มมากขึ้นทุกที

คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (เอ็นดีอาร์ซี) หน่วยงานวางแผนแห่งรัฐ แถลงเมื่อวันจันทร์ (8 เม.ย.) ว่า กำลังเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ เรื่องทบทวนบัญชีอุตสาหกรรมที่ต้องการให้เอ็นดีอาร์ซีส่งเสริม ควบคุม และกำจัด หลังจากที่ทำบัญชีครั้งแรกเมื่อปี 2554

กิจกรรมใดที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบ ไม่ปลอดภัย สิ้นเปลืองทรัพยากร หรือสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมต้องถูกยกเลิกไป กิจกรรมดังกล่าวมีกว่า 450 รายการหนึ่งในนั้นคือการขุดเงินเสมือนรวมทั้งบิทคอยน์

อย่างไรก็ตาม แผนการของเอ็นดีอาร์ซีไม่ได้กำหนดวันบังคับใช้หรือวิธีการกำจัดการขุดบิทคอยน์ หมายความว่ากิจกรรมนี้ควรถูกยกเลิกทันที ซึ่งสาธารณชนมีเวลาแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 7 พ.ค.

ด้านหนังสือพิมพ์ซีเคียวริตีส์ไทม์สของทางการจีน รายงานวานนี้ (9 เม.ย.) ว่า ร่างบัญชีสะท้อนให้เห็นชัดเจน ถึงทัศนคติที่นโยบายรัฐมีต่ออุตสาหกรรมเงินเสมือน

จีน ได้ชื่อว่าเป็นตลาดฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์สำหรับขุดบิทคอยน์และเงินเสมือนอื่นๆ รายใหญ่สุดของโลก โดยก่อนหน้านี้การขุดเงินเสมือนยังไม่มีระเบียบมาควบคุม โดยตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมาแวดวงเงินเสมือนถูกทางการจีนตรวจสอบอย่างหนักคณะกรรมการกำกับดูแลเริ่มห้ามการทำไอซีโอปิดเว็บซื้อขายเงินเสมือนของจีน และจำกัดการขุดเงินเสมือน บีบให้หลายบริษัทที่บางแห่งเป็นบริษัทใหญ่สุดของโลกจำเป็นต้องย้ายฐานไปที่อื่น

บริษัทจีนเองก็ได้ชื่อว่า เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ขุดบิทคอยน์ใหญ่สุดของโลกรายหนึ่ง ปีที่แล้ว 3 บริษัทยื่นเรื่องขอเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หวังระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์ แต่บริษัทใหญ่สุด 2 รายคือบิทเมน เทคโนโลยีส์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ขุดบิทคอยน์เบอร์ 1 ของโลกและคานาอันอิงค์ ปล่อยให้คำขอหมดอายุ

แหล่งข่าววงในเผยว่า คณะกรรมการกำกับดูแลฮ่องกงสอบถามถึงตัวแบบการทำธุรกิจและแนวโน้มอย่างละเอียด

ตามเอกสารที่คานาอันยื่นขอทำไอพีโอ ระบุ ยอดขายฮาร์ดแวร์บล็อกเชนสำหรับขุดเงินเสมือนในจีน ปี 2560 มูลค่า 8.7 พันล้านหยวน หรือ 45% ของยอดขายทั่วโลกวัดจากมูลค่า ส่วนยอดขายในจีนคาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.56 หมื่นล้านหยวนภายในปี 2563

สัปดาห์ก่อนราคาบิทคอยน์พุ่งขึ้นเกือบ 20% ถือเป็นวันดีที่สุดนับตั้งแต่ราคาเคยพุ่งเป็นฟองสบู่เมื่อปี 2560 และทะลุหลัก 5,000 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือน พ.ย.2561 เป็นต้นมา แม้แต่นักวิเคราะห์และผู้ค้าต่างยอมรับว่า งงไปตามๆ กันที่บิทคอยน์ราคาสูงขนาดนี้ ส่วนวานนี้ซื้อขายกันที่ 5,190 ดอลลาร์