บวกตามภูมิภาค

บวกตามภูมิภาค

SET Index เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน และราคาน้ำมัน WTI ปิดบวก

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,644.64 จุด (+5.99 จุด) Volume 4.4 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -193.95 ลบ. TFEX Net +5,806 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ +1,622 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+  ดาวโจนส์ปิดบวก 329.74 จุด +1.27% ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ-จีนคืบหน้าเจรจาการค้า

+ ราคาน้ำมัน WTI ปิดพุ่งขึ้น  โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน รวมทั้งความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

+  สหรัฐเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจในเดือนม.ค.+0.8%MoM มากกว่าคาดที่ +0.5%MoM

+ สหรัฐเผยการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างในเดือนก.พ. พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน สวนทางคาดการณ์

+ผู้ว่า ธปท.เชื่อ GDP ปีนี้ยังโตได้ 3.8% จากพื้นฐานเศรษฐกิจแกร่งและมีเสถียรภาพที่ดี

+ ธปท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ มี.ค.เพิ่มขึ้น ตามความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในภาคการผลิต

+/- IAA คาดหุ้นไทย Q2 อาจเห็นแรงเหวี่ยงทำจุดต่ำสุดที่ 1,583 จุด คาดดัชนี ณ สิ้นปี 62 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,740 จุด ส่วนใหญ่คาดว่าในปี 62 จะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก

+/- ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐสูงกว่าคาดในเดือนมี.ค. สวนทาง"มาร์กิต"ที่คาดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบเกือบ 2 ปี

+/- "มาร์กิต"เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตอิตาลีหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ในมี.ค. ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตกรีซสูงสุดรอบ 12 เดือนในมี.ค.

-รัฐสภาอังกฤษคว่ำข้อเสนอทางเลือกของกระบวนการ Brexit เป็นครั้งที่ 2

- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.32 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 31.70 บาท/US

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี และการเจรจาสงครามการค้าสหรัฐและจีนมีความคืบหน้า อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น  ปัจจัยกดดันจากการเมืองในประเทศและความไม่แน่นอนของ Brexit คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635-1,651 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (WHA AMATA) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (STEC SEAFCO) กลุ่มค้าปลีก (CPALL BJC MAKRO)
  • กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก(CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว(AOT CENTEL ERW) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH) กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO RATCH)
  • หุ้นเข้าใหม่คำนวณในดัชนี MSCI-EM : CENTEL RATCH INTUCH DTAC
  • หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุน : SCC EGCO CPN LH TU BANPU BH BBL BDMS KBANK
  • หุ้นที่มีโอกาสถูกลดน้ำหนักลงทุนหรือถอดออก: SCB MTC
  • IAA เผยหุ้นเด่นจากผลสำรวจนักวิเคราะห์ : AOT BBL CPALL SCC STEC

หุ้นรายงานพิเศษ

NER ราคาปิด 2.62 บาท  แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 3.32

  • ปี 62 ผบห.ยังคงมุมมองบวกอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดปริมาณการขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 266,000 ตัน เติบโตจาก ปี 61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 216,354 ตัน จากการเพิ่มสายการผลิตใหม่ในช่วงกลาง มี.ค.62 ในผลิตภัณฑ์ RSS-Compound มี Capacity รวมที่ 60,000 ตัน/ปี พร้อมวาง Rate สำหรับสายการผลิตดังกล่าวในปี 62 ที่ 50%
  • เราคาดรายได้และกำไรปี 62 ราว 11,544 ลบ. +14.8%YoY และ 569.4 ลบ. +17%YoY ตามลำดับ จากสมมติฐานการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกำลังผลิตรวม (Capacity) ในปี 62 อยู่ที่ราว 292,800 ตัน จากการเพิ่มสายการผลิตยาง RSS-Compound ที่มี Capacity 60,000 ตัน/ปี พร้อมกับคาดการณ์ %Rate สำหรับสายการผลิตดังกล่าวในปี 62 ราว 50% โดยภาพรวมในปี 62 เราคาด Utilization รวมทุกสายการผลิตราว 230,880 พันตัน หรือคิดเป็น %U.Rate ราว 75% ขณะที่คาด %GPM และ %SG&A จะทรงตัวจากปี 61 ที่ราว 10.4% และ 3.3% ตามลำดับ จากกลยุทธ์การขายสินค้าแบบ Order Matching โดยบริษัทฯจะขายสินค้าในปริมาณที่ใกล้เคียงกับปริมาณที่ซื้อวัตถุดิบเข้ามาในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของราคายางพารา
  • เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการหลังผู้บริหารเปิดเผยว่างวด 1Q62 มีแนวโน้มโตกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนราว15% หลังปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร ดันกำลังการผลิตเพิ่ม นอกจากนี้ ช่วง 2Q62 จะมีการใช้เครื่องจักรใหม่สำหรับผลิตยาง RSS-Compound ช่วยหนุน Capacity เพิ่มอีก 60,000 ตัน/ปี ซึ่งจะทำให้กำลังผลิตรวมอยู่ที่ 292,800 ตัน/ปี ปรับตัวเพิ่มจากปี 61 ที่มีกำลังผลิตรวมเท่ากับ 232,800 ตัน/ปี

หุ้นมีข่าว   

·         +WHA ประกาศเปิดตัวนิคมฯแห่งใหม่ “ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3” พื้นที่ 2,198 ไร่ ล่าสุดเซ็นสัญญาขายที่ดินให้ลูกค้ารายแรก “พรินซ์ เฉิงซานฯ” 280 ไร่ พร้อมซุ่มเจรจาพันธมิตรจีนร่วมทุนตั้งนิคมฯในไทย คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         CHOW ขายโรงไฟฟ้าให้กองทุนญี่ปุ่นอีก 5.38 MW รับทรัพย์ 505 ล้านบาท ส่วนธุรกิจเหล็กปรับกลยุทธ์มุ่งรับจ้างผลิตให้ลูกค้ารายใหญ่ หนุน Q2 เด้ง (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         กลุ่มสื่อสาร : TRUE จ่ายค่าประมูลคลื่น 900 MHz งวดที่ 3 แล้ว 4,301.40 ล้านบาท วอนรัฐทบทวนต้นทุนค่าคลื่น 5G ให้ถูกลง ฟาก ADVANC เตรียมชำระค่าคลื่น ก.ค.นี้ ด้าน กสทช.เชื่อรัฐเดินหน้าผลักดัน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         GUNKUL (ราคาปิด 3.10 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 4.27) เผยโครงการโซลาร์ฟาร์ม คิมิตสึ ที่ญี่ปุ่น กำลังการผลิต 33.50 เมกะวัตต์ เริ่ม COD แล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 ขายให้กับ "TEPCO Energy Partner" เป็นระยะเวลา 20 ปี อัตรารับซื้อไฟฟ้า FIT หน่วยละ 36 เยน (ที่มา : ทันหุ้น)

·         EKH มั่นใจจากนี้ธุรกิจแข็งแกร่ง หลังขยายศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ ศูนย์ไตเทียม, ศูนย์ ตา หู คอ จมูก, ศูนย์ความงาม ศูนย์ทันตกรรมและได้แรงหนุนจากศูนย์ IVF ทำให้บริการทางการแพทย์ครบวงจรมากขึ้น (ที่มา : ทันหุ้น)

·         EA (ราคาปิด 48.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 65.21)  เผยโครงการไฟฟ้าพลังงานลมหนุมาน 9 ขนาดกำลังผลิต 42 เมกะวัตต์ เริ่ม COD ให้ กฟผ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้รับรู้รายได้ทันที หนุนกำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 584 เมกะวัตต์ ขณะที่ยังเหลืออีก 80 เมกะวัตต์ ที่จะทยอย COD ต่อเนื่องจนครบ 260 เมกะวัตต์ (ที่มา : ทันหุ้น)

·         THG ส่งซิกผลงานไตรมาส 1/2562 หรู หลังรับรู้ยอดโอนโครงการ Jin Wellbeing เข้าเพิ่ม 25 ยูนิต ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายแตะ 290 ยูนิต ไม่น้อยกว่า 1.4 พันล้านบาท ฟุ้งปีนี้ รพ. Ar Yu, รพ. Welly Hospital และรพ.บำรุงเมือง ถึงจุดคุ้มทุนแน่ (ที่มา : ทันหุ้น)

·         EPCO ลุยธุรกิจไฟฟ้าเต็มสูบ คาด COD แตะ 555 เมกะวัตต์ ปีนี้ระบุอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจพลังงานลมที่ประเทศเวียดนามเพิ่มเติม คาดสรุปความชัดเจนภายในปีนี้ พร้อมวางเป้ารายได้รวมปีนี้ที่ 1,700 ล้านบาท ด้านธุรกิจโรงพิมพ์มีโอกาสโตจากงานประเภทบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก คาดเดินเครื่องภายในเดือน ก.ค.นี้ และเริ่มรับรู้รายได้ช่วง ส.ค.ปีเดียวกัน (ที่มา : ทันหุ้น)