ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยลั่นสหรัฐไม่มีทางบดขยี้ "หัวเว่ย"ได้

ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยลั่นสหรัฐไม่มีทางบดขยี้ "หัวเว่ย"ได้

เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ยักษ์ใหญ่สื่อสารโทรคมนาคมของจีน กล่าวอย่างมั่นใจว่า ไม่มีทางที่โลกจะหันหลังให้กับหัวเว่ยเพราะบริษัทมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่า

เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบีบีซี ตอบโต้ความพยายามขึ้นบัญชีดำของสหรัฐในหลายประเด็น รวมถึงการกล่าวอย่างมั่นใจว่า ไม่มีทางที่สหรัฐจะบดขยี้หัวเว่ยได้ และโลกไม่สามารถหันหลังให้กับหัวเว่ย เพราะหัวเว่ยมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่า

ส่วนกรณีที่แคนาดาจับกุมนางเมิ่ง หว่านโจว บุตรสาวและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของหัวเว่ย ตามคำร้องของสหรัฐ เพื่อพิจารณาส่งตัวไปดำเนินคดีข้อหาละเมิดคว่ำบาตรอิหร่านนั้น ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยวัย 74 ปี ประณามว่าเป็นคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง แต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ ก็จะปล่อยให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน

เหริน เจิ้งเฟย ที่น้อยครั้งจะออกมาพูดกับสื่อ จำต้องออกมาแสดงความเห็นเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ขณะบริษัทกำลังถูกเพ่งเล็งด้วยข้อหาช่วยรัฐบาลปักกิ่งสอดแนม โดยมีสหรัฐเป็นผู้นำการกล่าวหาและโน้มน้าวให้บรรดาพันธมิตรร่วมคว่ำบาตรเทคโนโลยีของหัวเว่ย ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เตือนพันธมิตรอีกครั้ง ไม่ให้ใช้เทคโนโลยีบริษัทจีนรายนี้ เพราะจะเป็นเรื่องยากสำหรับวอชิงตันที่จะเป็นหุ้นส่วนกันต่อไป

ส่วนออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และสหรัฐ สั่งห้ามหรือยับยั้งการใช้อุปกรณ์หัวเว่ยในโครงข่ายบรอดแบนด์ 5จี ส่วนแคนาดายังอยู่ระหว่างประเมินว่าเป็นภัยความมั่นคงหรือไม่ ซึ่งผู้ก่อตั้งหัวเว่ยมองข้ามแรงกดดันเหล่านี้ โดยกล่าวว่า “หากแสงไฟในตะวันตกดับไป ตะวันออกจะยังคงสว่างไสว  หากทางเหนือมืด ทางใต้ก็ยังมี อเมริกาไม่ได้เป็นตัวแทนของทั้งโลก เป็นแค่ส่วนหนึ่งของโลกใบนี้เท่านั้น และว่า ต่อให้เกลี้ยกล่อมประเทศต่างๆไม่ให้ใช้หัวเว่ยชั่วคราว บริษัทก็สามารถปรับตัวลดขนาดให้เล็กลงได้เสมอ