ญี่ปุ่นเร่งรับมือผลกระทบอุตฯท่องเที่ยวบูม

ญี่ปุ่นเร่งรับมือผลกระทบอุตฯท่องเที่ยวบูม

ชาวบ้านในพื้นที่ต้องเผชิญหน้ากับต้นทุนในการใช้ชีวิตที่เพิ่มขึ้น เจอมลภาวะทางเสียง และขยะปริมาณมากที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ให้คำมั่นว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้ได้ 40 ล้านคนภายในปี 2563 ซึ่งคำประกาศของผู้นำประเทศที่มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยวนี้ ถือเป็นภาระกิจที่ชุมชนท้องถิ่นทุกแห่งทั่วประเทศต้องปรับตัวตามและแปลงโฉมชุมชนให้มีบรรยากาศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

เมื่อปี 2561 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นจำนวนกว่า 30 ล้านคน เพราะกระแสนิยมเที่ยวญี่ปุ่น ทำให้ชุมชนต่างๆทั่วประเทศมีรายได้ประมาณ 4.5 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปีแต่คนในพื้นที่ต้องสูญเสีย“ความเป็นปกติ”ในการดำเนินชีวิตของตัวเองไปหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งรวมถึง เสียเงินค่าสินค้าและบริการแพงขึ้น ต้องเจอพฤติกรรมหยาบคายของนักท่องเที่ยวและปัญหาต่างๆที่เหล่านักท่องเที่ยวเป็นผู้ก่อ ทำให้ล่าสุด บรรดาภาคธุรกิจและชุมชนทั่วญี่ปุ่นเตรียมออกมาตรการเพื่อรับมือกับการไหลทะลักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่มีความปลอดภัย และเติบโตอย่างยั่งยืนก่อนหน้าที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวปี 2563

ในสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง รายได้ของเมืองที่ได้จากนักท่องเที่ยวมากมายมหาศาลและเป็นประเด็นสำคัญ เช่นเขตคันไซในภาคตะวันตกของญี่ปุ่นที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนประมาณ 40% และนักท่องเที่ยวเหล่านี้ใช้จ่ายเงินเพื่อเป็นค่าสินค้าและบริการปีละจำนวนกว่า 1 ล้านล้านเยน

ส่วนอูเมดะ สกาย บิลดิง ที่ได้รับการออกแบบอย่างเป็นเอกลักษณ์ของเซนทรัล โอซากา ดึงดูดนักท่องเที่ยวในปีงบการเงิน 2560 ประมาณ 1.5 ล้านคน มากกว่าเมื่อปี 2551 ประมาณกว่า3เท่าโดยในปีนี้เป็นปีที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น1 ใน20 ตึกสูงของโลกโดยหนังสือพิมพ์ไทม์ ของอังกฤษ ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 75% และค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นกว่า2เท่าเป็น 1,500 เยนในเดือนมีนาคม 2558 จากอัตราค่าเข้าที่ 700 เยนพร้อมทั้งคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในอนาคต

 อย่างไรก็ตาม กระแสฮิตท่องเที่ยวญี่ปุ่นของชาวต่างชาติไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีต่อญี่ปุ่นอย่างเดียวเท่านั้น แต่ก่อให้เกิดผลกระทบในแง่ลบต่อวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนด้วยเช่นกัน เริ่มจากการที่ชาวญี่ปุ่นบางคน เริ่มบ่นว่าข้าวของประจำวันพากันปรับตัวสูงขึ้น แถมแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งยังไม่ค่อยยินดีรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นที่เดินทางท่องเที่ยวลดลงกว่า 30% เหลือ 370,000 คนในปีงบการเงิน 2560 เทียบกับเมื่อ3ปีก่อน

นอกจากนี้ ราคาสินค้าและบริการที่ตลาดอาหารชื่อดัง“คุโรมอน”ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วในฐานะเป็น“ครัวของโอซากา”ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงมาก ตัวอย่างเช่น ก้ามปูไฮเอนด์ มีราคาขายอยู่ที่ 2,000 เยน ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันคนหนึ่ง กล่าวว่า ไม่อยากเสียเงินหลายพันเยนไปกับก้ามปูเพียงก้ามเดียว หรือเนื้อวัวโกเบระดับไฮเอนด์ในตลาดดังกล่าว แต่หากไปนั่งรับประทานทั้งสองอย่างในร้านอาหาร ยังรู้สึกว่าคุ้มค่ากว่า

นอกจากนี้ พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของบรรดานักท่องเที่ยว ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายในสายตาชาวญี่ปุ่น อย่างกรณีของตลาดนิชิกิที่ติดป้ายเป็นภาษาอังกฤษ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น เรียกร้องให้เหล่านักช็อปไม่รับประทานอาหารขณะเดินซื้อของ ด้วยความหวังว่าจะลดปริมาณขยะที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว

การติดป้ายประกาศของตลาดเกิดขึ้นพร้อมๆกับการที่สมาคมผู้ประกอบการในชุมชน เรียกร้องให้บรรดาเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวติดตั้งจุดสำหรับทิ้งขยะเพิ่มขึ้นและจัดพื้นที่ว่างไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้รับประทานอาหาร

ฮอกไกโด เกาะที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น เป็นอีกที่ที่ถูกกดดันจากกระแสนักท่องเที่ยว โดยเมื่อปี 2560 นักท่องเที่ยวต่างชาติเช่ารถประมาณ 80,000 คันเพิ่มขึ้นจากช่วง5ปีก่อนประมาณ 5 เท่า ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติสูงกว่านักขับชาวญี่ปุ่นถึง 4 เท่า ล่าสุด ตำรวจท้องถิ่น ร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นติดตั้งป้ายหยุดรถเป็นภาษาอังกฤษประมาณ 400 จุดใกล้กับสนามบินชิโตเซ่และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต

ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและพำนักในบ้านส่วนตัวก็สร้างปัญหาแก่ชุมชนชาวญี่ปุ่นเช่นกัน เช่น ส่งเสียงดัง และสร้างปัญหากวนใจรูปแบบอื่นๆ เช่นราคูเท็น คอมมิวนิเคชัน หน่วยงานในเครือราคูเท็น ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีกทางออนไลน์ของญี่ปุ่น ถึงกับต้องติดป้าย“กรุณาอย่าเสียงดัง”ในเวอร์ชันภาษาต่างๆไว้ที่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในห้องพักภายในโรงแรม ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปในเวลาอันรวดเร็ว เพราะญี่ปุ่นเองก็มีความจำเป็นต้องอ้าแขนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาเยือนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้