ปี่กลองดังเชิด คนการเมืองขยับ

ปี่กลองดังเชิด คนการเมืองขยับ

ทันทีที่เช้าวันที่ 23 ม.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562

คนการเมืองขยับตัวทันทีแทบทุกพรรค แม้แต่กลุ่มที่ยืนคนละข้างกับ "ลุงตู่" ที่เรียกร้องความแน่ชัดของการเลือกตั้งก็สงบ เพราะสัญญาณบวกกลับคืนสู่ไทยแลนด์แดนยิ้มทันที

แน่นอนแล้วว่าคนไทยกว่า 50 ล้านคน ที่มีสิทธิหย่อนบัตรทั้งในและนอกราชอาณาจักรตามไทม์ไลน์นี้

24 ม.ค. กกต. ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษา (24 มี.ค. วันเลือกตั้งทั่วไป)

28 ม.ค.-19 ก.พ. วันลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

4-8 ก.พ. วันรับสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และพรรคการเมืองต้องแจ้งชื่อนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค

15 ก.พ. ประกาศรายชื่อผู้สมัครส.ส.

4-16 มี.ค. วันเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

17 มี.ค. วันลงคะแนนนอกเขตเลือกตั้ง

24 มี.ค. วันเลือกตั้งทั่วไป

เมื่ออะไรต่อมิอะไรมันชัดแบบนี้ “ดัชนีหุ้นไทยก็ดีดตัวขึ้น” สื่อสัญญาณว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา รวมทั้งยืนยันความมั่นใจให้คนไทยและคนต่างชาติมองอนาคตของประเทศในมุมบวกขึ้น หลังจากมีเหตุที่ชวนระทึกจนบางขั้วนำมาเขย่าความเชื่อมั่นของบ้านเมืองและการเมืองมาระยะหนึ่ง

104 พรรคที่ขึ้นทะเบียนกับกกต.ไว้ก็ต้องดูว่า พรรคเหล่านี้จะส่งผู้สมัครส.ส.กันกี่พรรค แต่จากสถิติเดิมๆที่ผ่านมาพบว่าราวๆ 30-40 พรรค ที่จะส่งผู้สมัครส.ส. แต่คราวนี้ก็ต้องดูว่ามีกี่พรรคที่ส่งครบ350เขตและ150ปาร์ตี้ลิสต์

ระยะเวลา 59 วัน ที่จะปล่อยให้แต่ละพรรคลงพื้นที่โกยแต้มนั้น นับว่าเป็นเวลาหาเสียงที่ยาวนานสุดครั้งหนึ่งของการหย่อนบัตรเลือกผู้แทนฯ พรรคใดที่มิพร้อมนักก็มีเวลาหายใจเพิ่ม พรรคใดที่พร้อมแล้วก็มีเวลาเก็บตกกับบางเขตที่มิมั่นใจได้อีก ของแบบนี้ “วิน-วิน” แต่แว่วมาจากคนดูแลบางพรรคว่าค่าใช้จ่ายดีดขึ้นบาน....

โลกออนไลน์เมื่อวันวานที่คนการเมืองอาศัยหาแต้ม ยามนี้สงบพลัน บางคนปิดพื้นที่สื่อสาร นัยว่ากลัวโดนข้อหาใช้โลกออนไลน์หาแต้มและคิดเงิน รวมทั้งกติกาบอกว่าใครหรือพรรคใดจะใช้พื้นที่ออนไลน์ต้องบอกกกต.ล่วงหน้าด้วย

รู้ๆกันดีว่า คนการเมืองบางคนบูทโพสต์เพื่อแชร์ข้อมูลสู่สังคมวงกว้าง ตรงนี้คือค่าใช้จ่ายที่ต้องนำมาหักจริง ฉะนั้นตอนนี้หลบและเว้นวรรคชั่วคราวก่อน “ดีที่สุด”

ส่วนความเคลื่อนไหวในตอนนี้สายสืบรายงานว่าแต่ละพรรคกำลังเช็กชื่อและกำลังพลในขั้นสุดท้ายก่อนที่จะทยอยเปิดชื่อและแคมเปญหาแต้ม เว้นแต่ภูมิใจไทยที่แสดงความเก๋าและความพร้อมก่อนเพื่อน แต่แว่วมาไกลๆ จากเมืองหนึ่งในอีสานใต้ว่า ตอนนี้คีย์แมนหน้าฉากและคนโตหลังบ้าน ซดเกาเหลากันเองด้วยเหตุบางเรื่องบางราวที่มีการไม่ลงรอยกับจังหวะย่างก้าวในพรรคสีน้ำเงิน และต้องดูว่าต่อจากนี้สองบิ๊กในพรรคสีน้ำเงินจะกินเส้นกันเมื่อใด

ส่วนพปชร.เปิดแถลงนโยบายพรรควันนี้ แต่สายตาหลายคู่มองไปยัง 4 รมต.ที่เป็นแกนนำพรรคว่าจะไขก๊อกลงสนามเต็มตัวเมื่อใดและลุงตู่จะรับเทียบเชิญของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ในการคัมแบ็กไทยคู่ฟ้าหลังศึกหย่อนบัตร และช่วงนี้หลากพรรคต่างส่งเสียงคีย์เดียวกันว่า “ลุงตู่และ4รมต.”ต้องพ้นจากครม.หากประสงค์เล่นการเมือง แต่ดูแล้ว4รมต.ไขก๊อกน่าจะง่ายกว่าให้ลุงตู่ลาออก เพราะในประวัติศาสตร์และข้อกฎหมาย มิมีผู้นำรัฐบาล(ทั้งมาจากการเลือกตั้งหรือยึดอำนาจ)ต้องลาออกหากถึงเวลาเลือกตั้งเลย

กระแสนี้น่าจะกดดันกันตามหน้าสื่อเพื่อเรียกประเด็นข่าวไว้รุมถล่มบนเวทีหาเสียงของขั้วตรงข้ามลุงตู่มากกว่า
อย่าลืมว่าที่ผ่านมาและตอนนี้ขาใหญ่ในพปชร.ที่ออกเดินสายเก็บแต้มหลายพื้นที่ยอมรับแล้วว่า “หากพปชร.ขาดลุงตู่ก็แทบขาดใจ...”

ฉะนั้น..จากนี้ไปคนไทยรอเรื่องเดียวพอคือ “เมื่อใดลุงตู่ตอบรับหรือปฏิเสธเทียบเชิญของพรรคการเมืองให้อยู่ในบัญชีนายกฯ...” วันนั้นจะเป็นข่าวใหญ่อีกวันหนึ่งของเมืองไทย