คิดต่างชนวนทำเนียบขาวปัดถกการค้ากับจีนสัปดาห์นี้

คิดต่างชนวนทำเนียบขาวปัดถกการค้ากับจีนสัปดาห์นี้

ขณะรัฐบาลปักกิ่งเรียกร้องสหรัฐยุติคำร้องขอส่งตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ซีเอฟโอหัวเว่ยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

สื่อรายงานว่า ทำเนียบขาว ปฏิเสธแผนการจัดการเจรจาการค้ากับจีนในสัปดาห์นี้ อันเนื่องจากความแตกต่างทางความคิดของทั้งสองฝ่ายในการบังคับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา

ก่อนหน้านี้ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) มีกำหนดพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีช่วย 2 รายในสัปดาห์นี้ ในความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนเส้นตายวันที่ 1 มี.ค. แต่การประชุมดังกล่าวได้ถูกยกเลิกในที่สุด

หากจีนและสหรัฐไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาที่ถาวร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากทางการจีน ต้องการให้สหรัฐยุติคำร้องขอส่งตัว นางเมิ่ง หว่านโจว ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน(ซีเอฟโอ) และบุตรสาวของผู้ก่อตั้งหัวเว่ย บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการโทรคมนาคมของจีนมายังสหรัฐ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน พร้อมประณามสหรัฐว่า สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับแคนาดา

นางหัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงว่า คดีของนางเมิ่งอยู่นอกเหนือจากคดีทั่วไป และนอกเหนือสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนของแคนาดากับสหรัฐ ซึ่งละเมิดความปลอดภัยและสิทธิตามกฎหมายและผลประโยชน์ของพลเมืองจีน

จีน ต้องการาให้สหรัฐถอนหมายจับนางเมิ่ง รวมทั้งถอนคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการจากแคนาดาต่อนางเมิ่ง ซึ่งถูกจับกุมที่แคนาดา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2561 ฐานละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ตั้งบริษัทลวงขึ้นมาค้าขายด้วย

คำแถลงนางหัวมีขึ้นหลังจากที่นักวิชาการและนักการทูตรวมกว่าร้อยคนจากกว่า 20 ประเทศ ร่วมลงนามจดหมายเรียกร้องให้ทางการจีนปล่อยตัวพลเมืองชาวแคนาดา 2 คน ได้แก่ นายมิเชล คอฟริก อดีตนักการทูตแคนาดา และ นายมิเชล สเปเวอร์ ที่ปรึกษาด้านการตลาดของเอกชนในจีน ในข้อหาร้ายแรงฐานเป็นสายลับจารกรรมข้อมูล ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นการตอบโต้ของจีนต่อการจับกุมนางเมิ่ง

ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ยังเดินหน้าขั้นตอนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของนางเมิ่ง พร้อมกำหนดวันดังกล่าวภายใต้สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับแคนาดา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ขอบคุณทางการแคนาดาที่สนับสนุนความพยายามร่วมกันบังคับใช้หลักนิติธรรม