เวทีเสนา "อยากเห็นการเมืองไทยดีกว่านี้" เปิดพื้นที่ นักธุรกิจรุ่นใหม่ ประสานเสียง การเมืองนิ่ง ลดขั้นธุรการภาครัฐ ไม่หวั่น "ประยุทธ์" นั่งนายกฯอีกสมัย เชื่ออยู่ที่ทำผลงาน ตรงใจ ปชช. ขณะ 6 พรรคการเมือง ชู นโยบาย แก้ กม.ล้าหลัง อัดเม็ดเงินลงทุน
เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2562 โรงภาพยนตร์เอสพลานาดซีนีเพล็กซ์แอดพานาด รัชดาภิเษก โดยมี แขกรับเชิญพิเศษจากวงการธุรกิจของเมืองไทยมาร่วมเสนอความคิดเพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพรรคการเมือง 5 คน ประกอบด้วย นายนพ ณรงค์เดช รองประธานคณะกรรมการบริษัท วินด์เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด นายปรินทร์โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้จัดการกองทุน 500 Tuks Tuks ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง อุ๊กบี จำกัด นางสาวชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรันซ์ไทม์ จำกัด และ นางสาวสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ CEO และ Co-Founder บริษัท ยูดริ้งค์ไอไดรฟ์ จำกัด
โดยภาคธุรกิจคนรุ่นใหม่ เห็นตรงกันว่า สภาวะการเมืองที่ไม่นิ่ง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ทั้งเรื่อง รัฐประหาร การชุมนุม รวมถึงนโบายของรัฐบาล ส่วนหนึ่ง มีทั้งเอื้อประโยชน์ และส่งผลกระทบ เช่น การขึ้นภาษีป้ายโฆษณา 500% นอกจากนี้ กฎหมาย กติกา ที่ล้าสมัย ทำให้การดำเนิจการภาคธุรกิจติดขัด ตลอดจนถึงภาครัฐยังมีเวทีน้อยเกินไปจะเชื่อมโยงให้ผู้ผลิต เช่น เกษตกร กับ ผู้ประกอบการ
ภาคธุรกิจคนรุ่นใหม่ ยังมองอีกว่า ในอนาคตหลังการเลือกตั้ง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า นายกรัฐมนตรี จะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ แต่ทุกอย่างอยู่ที่ผลงาน รวมถึง ทีมงานด้วย ว่าทำได้ดีขึ้นหรือไม่ ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นรัฐบาลต้องสร้างผลงาน หากอยู่สร้างผลงานให้ดีที่สุด แต่ถ้าเป็น คนอื่นมาทำหน้าที่ก็ขอให้ทำดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งใครก็ตามเข้ามาทำหน้าที่ ภาคธุรกิจพร้อมสนับสนุน
ขณะเดียวกันนักการเมืองจากหลายพรรค ได้ชูนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาภาคธุรกิจ โดย นายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี กรรมการนโยบาย ปชป. บอกว่า ปชป. กำลังทำแอพพลิเคชั่น ช่วยเหลือภาคธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์การทำงาน เพิ่มความรวดเร็ว และสร้างโอกาสการทำงาน ซึ่งปัจจุบันมีกฎหมายดังกล่าว แต่ไม่ได้นำมาปฏิบัติจริงจัง นอกจากนี้สิ่งที่สิ่งที่พรรคจะดำเนินการ หากได้เป็นรัฐบาล คือ ประกันรายได้คนไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อสร้างความเท่าเทียมกัน รวม
ทั้งนี้ ส่วนในอนาคต เกิดการเปลี่ยนแปลงนอกกติกานั้น ตนเชื่อว่า ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐบาลได้ขีดเส้นทุกอย่างแล้วว่าต้องเลือกตั้ง 9 พ.ค. อยู่ที่ทางรัฐบาลจะเดินทางไปสู่ความขัดแย้งเองหรือไม่ การที่กรรมการเปลี่ยนมาเป็นผู้เล่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลเลือกเอง ซึ่ง ปชป.หลุดพ้นขัดแย้ง 2 ฝ่ายแล้ว
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ต้องดำเนินการ4 เรื่องเพื่อให้ตอบโจทย์ภาคธุรกิจ คือ 1. การจัดการเรื่องกฎหมาย กติกา ที่ล้าสมัย 2.มีแบบฟอร์มดิจิตอล ในการขออนุญาตหน่วยงานภาครัฐ 3.ทุน หารูปแบบทุนใหม่ๆ4.คน ต้องเข้าใจเทคโนโลยี
และที่สำคัญรัฐบาล หากไม่สนับสนุน อย่าขวางการเกิดใหม่ของภาคธุรกิจ ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายจะดำเนินการใน 4 เรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐขอเป็นตัวเลือก เพราะเราไม่ขัดแย้งกับใคร หลายคนมาร่วมงานในพรรคมีผลงาน ขับเคลื่อนงานสำคัญๆ เราตั้งใจเดินหน้าเปลี่ยนแปลงให้ประชาชน พรรคพลังประชารัฐเน้นทำจริง ต่อเนื่อง
นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ ชี้แจงว่า เรามองเห็นโอกาสตรงนี้ พลังและศักยภาพคนไทย ทำให้ประสบความสำเร็จได้ ทางพรรคพร้อมจะผลักดันประเทศเป็น ครีเอทีฟอีโคโนมี อยากให้ เศรษฐกิจพอเพียงอย่างสร้างสรรค์ และสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นหากพักได้ทุนรัฐบาลรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวก็จะผลักดันให้สถาบันการเงินต่างๆของเงินทุนให้กับภาคธุรกิจเรื่องใหม่ๆ
ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า สิ่งที่ต้องปรับคือการแก้ไจกฎหมายล้าหลังเป็นปัจจุบัน เพราะเป็นปัญหาภาคธุรกิจ และ พรรคการเมือง สิ่งที่ภาครัฐจะต้องดำเนินการ อบรม กฎระเบียบต่างๆให้เกิดความทันสมัย ขั้นตอนทางราชการ ในรูปแบบการทำออนไลน์ จะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจขับเคลื่อนได้เร็วขึ้น ส่วรเรื่องเกษตร คือ ปัญหาอยู่ที่คนรุ่นใหม่ไม่ทำการเกษตรแต่จะดำเนินการต่อยอดซึ่งทางภาคเหนือมีนโยบายที่ติดต่อได้ด้วยการเกษตรคือใครที่สนใจงานด้านเกษตรจะให้เรียนฟรีในเรื่องการเกษตรไปถึงพอดีและต้องการให้เกษตรกรที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีความภาคภูมิใจในอาชีพที่ทำให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งก็จะทำให้ธุรกิจกระเตื้องขึ้น ก้าวไปข้างหน้าได้ นอกจากนี้จะส่งเสริทเขี้ยวเล็บให้เกษตรกร คือ ขยายช่องทางการขายและลดต้นทุน ทั้งนี้ พรรคชาติไทย จะพัฒนาการศึกษา เราอยากแก้ พรบ.ศึกษาใหม่ ปฏิรูปใหม่ ให้ทุกคนมีส่วนร่วม เพราะเข้าสังคมไทย เศรษฐกิจในอนาคต เรามั่นใจทำได้อีก หลังทำมาแล้วเมื่อปี 2538 ทำได้จริง ไม่ขายฝัน
นายวราวุธ ย้ำว่า หากมีเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนอกระบบ ทุกคนจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงพูดว่าระบบจะเป็นตัวกำหนดและทุกท่านที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรออกมาในรูปแบบใดสิ่งที่ทุกพรรคการเมืองและภาคเอกชนที่ต้องการคือตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งเลือกตั้ง และการเปลี่ยรแปลงนอกระบบ
นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า เห็นด้วยในเรื่องของข้อกฎหมายที่ทำให้เรื่องธุรกิจติดขัด นอกจากนี้ นโยบายหลัก ชาติพัฒนาจะทำประเทศ ไม่มีปัญหาผ่านนโยาบจะเปิดตัวเร็วๆนี้ 8 ข้อ ทั้งเศรษกิจ สังคม การศึกษา และไม่สร้างปัญหา เป็นพรรคกลางไม่ทะเลาะกับใคร
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บอกว่า ปัญหาเกิดขึ้นการทำธุกิจ เนื่องจากรัฐบาลขาดความใกล้ชิดผู้ประกอบการ ซึ่งพรรตอนาคตใหม่ มีนโยบายจะให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น เช่น เปิดเผยข้อมูลให้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ได้นำไปต่อยอด สร้างนวตกรรมใหม่ๆ พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน นอกจากนี้พรรคอนาคตใหม่ มีนโยบาย ยุติการรวมศูนย์อำนาจ เป็นการกระจายอำนาจ ให้ส่วนปกครองในท้องถิ่นมีงบประมาณ มีอำนาจ ในการทำงานได้เอง ไม่ต้องรออำนาจ งบประมาณจากส่วนกลาง