"เจษฎ์" ซัด รธน.ทำเสียของ เหตุขจัดผลประโยชน์ทางการเมืองไม่ได้ ชี้ความหวังปชช. หลังเลือกตั้งต้องพึ่งตนเอง-มีส่วนร่วมในสิ่งที่คาดหวัง จวกยึดอำนาจปี 57 ปฏิรูปประเทศไม่สำเร็จ
นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวในงานสัมมนาสาธารณะ หัวข้อ มองเมืองไทย ให้ไกลกว่าได้เลือกตั้ง ถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล ต่อความคาดหวังของประชาชนหลังการเลือกตั้ง ว่า สำหรับผลสำรวจความคิดเห็น ใน 5 ด้าน โดยแต่ละด้านที่ประชาชนให้ความเห็นสูงสุด ถือภาพสะท้อนความเป็นประเทศกำลังพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด เพราะประชาชนตอบเฉพาะในเรื่องการแก้ปัญหาปากท้องและเรื่องเศรษฐกิจ หรือต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนด้านเกษตรกร เช่น ตลาดรองรับสินค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าบ้านเมืองไม่ได้เรื่อง ขณะเดียวกันตัวอย่างที่สุ่มถามกว่า 1.2พันตัวอย่าง เชื่อว่าจะเป็นผู้ที่ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ที่ถือว่าเป็นผู้ที่เจริญในบ้านเมือง แต่แนวคิดที่ตอบนั้นยังเป็นการตอบคำถามแบบพื้นๆ
นายเจษฎ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับแนวทางของกฎหมายที่หลายฝ่ายมองว่าจะช่วยได้ แต่ส่วนตัวมองว่าต่อให้เขียนกฎหมายดีขนาดไหน วงจรที่ยังวนเวียนหลังเลือกตั้งยังเป็นเพียงการแย่งชิงกันทางอำนาจ ไม่ใช่การเป็นประชาธิปไตย ส่วนข้อถกเถียงเรื่องวันเลือกตั้งภายใน 150 วัน นั้นตนมองว่ามีทางออก แต่ปัจจุบันพบการสร้างเงื่อนไขที่ผูกปมไว้จำนวนมาก ดังนั้นปัญหาทางการเมืองสิ่งที่แก้ไขได้ คือ การเล่นการเมือง และทำงานการเมืองเชิงสร้างสรรค์ มีหลักการ และนำไปปฏิบัติได้
"ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ความเป็นประชาธิปไตยที่ได้คือ การแย่งชิงอำนาจ ขณะที่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ผมเชื่อว่ายังเป็นเพียงการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองของนักการเมืองเท่านั้น แม้จะไม่ใช่การแข่งขันทางการเมืองในรูปแบบของตัวแทนพรรคการเมือง ทั้งนี้การพัฒนาทางการเมืองเป็นโจทย์ใหญ่ ที่ประเทศไทยไม่สามารถทำได้จริง" นายเจษฎ์ กล่าว
นักวิชาการด้านกฎหมายมองด้วยว่าตั้งแต่การยึดอำนาจเมื่อปี 2557 สังคมตั้งความหวังกับการปฏิรูปบ้านเมือง แต่จนถึงปัจจุบันและถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งตนมองว่าการปฏิรูปหลายด้านไม่มีความคืบหน้า สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันตนมองว่าไม่สามารถเขียนเพื่อขจัดผลประโยชน์ทางการเมืองได้ และหากไม่สามารถทำได้เท่ากับว่าเสียของ
"สิ่งที่ต้องคิดตอนนี้ คือ หลังวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง ชีวิตประชาชนจะเป็นอย่างไร หากฝากความหวังไว้ที่พรรคการเมือง ผมมองว่าไม่ได้อะไร ดังนั้นประชาชนควรฝากความหวังไว้ที่ตัวเอง ผ่านการร่วมมือช่วยขับเคลื่อนตามความคาดหวังของตัวเอง อีกทั้งต้องมีส่วนร่วมในทุกๆ ด้านไม่เฉพาะแค่การมีส่วนร่วมร่างกฎหมายเท่านั้น"นักวิชาการด้านกฎหมาย กล่าว.