'ภูมิธรรม' อัดรัฐใช้อำนาจทำคดีบีบฝ่ายตรงข้าม

'ภูมิธรรม' อัดรัฐใช้อำนาจทำคดีบีบฝ่ายตรงข้าม

"เลขาฯเพื่อไทย" เตือนรัฐบาลทำสิ่งที่ควรทำชัดเจนอย่างการจัดเลือกตั้งที่ยุติธรรม เลิกใช้อำนาจทำคดีบีบฝ่ายตรงข้าม ชี้รัฐบาลติดลบเอง เชื่อกรณี "ชัชชาติ" สร้างประเด็นการเมือง สัปดาห์นี้พร้อมให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ให้ข้อมูล

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 8 ม.ค.62 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์กรณี นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 6 ของพรรค ถูกรวบตัวตามหมายจับของศาลคดีถูกกล่าวหาปล่อยกู้ ระหว่างพาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคลงพื้นที่พบประชาชนและกำลังจะขึ้นปราศรัยว่า ระหว่างการปลดล็อคที่ให้เราสามารถพูดคุยกับพี่น้องประชาชนได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีบรรยากาศที่เสมือนมีการคุกคาม รู้สึกเหมือนมีการทำให้เกิดความยากลำบากในการหาเสียงเลือกตั้ง จะเห็นได้ว่าบางเขตพื้นที่เราได้รับรายงาน จากผู้สมัครของเราว่าเวลาออกไปหาเสียงหรือออกไปพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนก็จะมีการถ่ายรูปพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเพราะสะท้อนเสมือนให้รู้สึกว่าเป็นการคุกคาม หรือการทำให้เกิดความหวาดกลัวต่างๆ

โดยเมื่อวานนี้ก็ยังเกิดขึ้นที่ จ.บุรีรัมย์ เรื่องคดีความใครถูกใครผิด ก็ว่ากันไปตามกฎหมายไม่มีปัญหาอะไรไม่ว่าจะเป็นใครจะเป็นนักการเมือง จะเป็นนักธุรกิจจะเป็นข้าราชการ จะเป็นทหารตำรวจหรือใคร ก็ตามหากมีการกระทำใดที่เป็นความผิด ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เราไม่ได้ปกป้องใคร แต่สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในระยะหลังอย่างเช่นกรณีที่เกิดขึ้นใน จ.บุรีรัมย์ ก็เป็นช่วงที่กำลังจะขึ้นเวทีปราศรัยของคุณหญิงสุดารัตน์ประธานยุทธศาสตร์ฯ นายพรชัยก็ถูกเชิญตัวก่อนจับกุม ไปที่โรงพัก คิดว่ารัฐบาลควรหลีกเลี่ยงบรรยากาศการเมืองแบบนี้ ความผิดความถูกถ้าจะมีขึ้นก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ควรจะหลีกเลี่ยงไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความรู้สึกว่ามีลักษณะการใช้อำนาจรัฐเข้ามาคุกคาม หรือดำเนินการกับพี่น้องประชาชนกับนักการเมืองกับพรรคการเมืองต่างๆ อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควรมันไม่ส่งเสริมบรรยากาศประชาธิปไตย และไม่ส่งเสริมบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างในการหาเสียงเลือกตั้งควรสามารถที่จะดำเนินการต่างๆได้

"ก็ติติงผู้มีอำนาจว่าถ้าท่านจะดำเนินการตามกฎหมายตามอำนาจหน้าที่ที่ท่านมีอยู่ ท่านสามารถกระทำได้แต่ควรจะหลีกเลี่ยงสภาพหรือบรรยากาศที่เชิญเขาไปในระหว่างที่จะขึ้นเวที ซึ่งถูก-ผิดตามกฎหมายอาญายังต้องการข้อเท็จจริง ต้องการข้อมูลและยังต้องการการตรวจสอบ หลายๆเรื่องหลายๆอย่าง ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิดเราไม่มีปัญหาอะไรแต่ไม่อยากให้มีบรรยากาศแบบนี้ในการดำเนินการ"

เมื่อถามว่า เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ "นายภูมิธรรม" ตอบว่า ก็อาจจะทำให้คาดหรือคิด หรือเข้าใจไปอย่างนั้นได้โดยขณะนี้เราได้เชิญตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส นั้น ให้มาพบเราซึ่งน่าจะเข้ามาในวันพรุ่งนี้ หรือวันถัดไป เพื่อเราจะได้สอบถามสาเหตุ และรายละเอียดต่างๆ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยผู้ใหญ่ในพรรคก็รับรู้ข่าวด้วยความห่วงใยจึง จะเชิญมาพูดคุย ถึงปัญหาเพื่อทำความเข้าใจ โดยเราขอติติงเจ้าหน้าที่ของรัฐนิดเดียวว่า ให้พยายามหลีกเลี่ยงอย่าให้เกิดความเข้าใจผิดหรือทำให้เกิดความรู้สึกที่มีต่อฝ่ายผู้ใช้อำนาจรัฐว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐ ไปคุกคามคนอื่นก็จะเป็นภาพลักษณ์หรือความรู้สึกที่ไม่ดี

เมื่อถามว่ากรณีการดูผู้สมัคร ส.ส.พรรค ต้องตรวจสอบประวัติก่อนหรือไม่ "เลขาธิการพรรคเพื่อไทย" กล่าวว่า ต้นก็คิดว่าทุกฝ่ายทุกพรรค ต้องมีการสกรีนตรวจสอบทั้งนั้น เราก็จะต้องเลือกบุคคลที่ดีที่สุด เป็นบุคลากรที่ดีที่สุดที่ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าในกระบวนการต่างๆหากจะมีปัญหาหรือจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องมาดูกันและต้องดูความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนที่ถูกกล่าวหาด้วย เมื่อถามย้ำว่า ที่ได้ตรวจสอบแล้วแสดงว่า 'ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.รายนี้' ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ "เลขาธิการพรรคเพื่อไทย" กล่าวว่า ก็ยังไม่ทราบรายละเอียด ว่าข้อกล่าวหาคืออะไรดังนั้นต้องขอรับทราบ และรับรู้เกี่ยวกับข้อเข่าข้อกล่าวหาทั้งหมดก่อน

เมื่อถามถึงกรณีที่ ป.ป.ช. นำประเด็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคและผู้มีรายชื่อจะเป็นแคนดิเดตเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี มาพิจารณาต่อในช่วงนี้ที่กำลังจะมีการหาเสียงเลือกตั้งจะมีผลกระทบต่อพรรคหรือไม่ "นายภูมิธรรม" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ทำให้เกิดปัญหาได้ ซึ่งระหว่างที่นายชัชชาติ ดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ไปทำทางธุรกิจก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อขยับเข้ามาสู่เวทีทางการเมือง ก็เป็นที่พาดข่าวหัวทุกฉบับที่จะมีการตรวจสอบต่างๆ

"จริงๆเรื่องน้ำ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นปัญหา ศาลปกครองสูงสุดก็เคยมีมติแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร ยังไม่เคยมีการจ่ายเงินอะไร ยังไม่เคยมีกระบวนการอะไรที่ทำผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ผ่านกระบวนการตัดสินของศาลไปแล้ว ส่วนเรื่องของการเยียวยาก็ชัดเจนว่าเราได้ดำเนินการไปกับทุกๆส่วนอย่างเท่าเทียมอย่างที่สมควรในดุลพินิจของ ครม.หรือของส่วนที่เกี่ยวข้องที่เขาดำเนินการ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทุกอย่างถูกดองไว้แล้วมาดำเนินการในช่วงเวลาที่กำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ผมไม่อยากให้รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจ ใช้อำนาจหน้าที่ที่ตัวเองมีอยู่ดำเนินการกับเรื่องราวต่างๆที่ทำให้เกิดเกิดความเข้าใจผิดว่ารัฐกำลังใช้อำนาจรัฐเข้าไปคุกคามฝ่ายการเมืองที่มีความเห็นต่างหรือฝ่ายตรงข้ามทำให้เกิดปัญหาต่างๆ และไม่เป็นผลดีใดๆเลยกับตัวรัฐบาล ไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ไม่เป็นผลดีต่อความรู้สึกที่คนมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ทำไมรัฐใช้อำนาจในการเข้ามาจัดการกับฝ่ายตรงข้าม มากเกินไป อันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ดี" นายภูมิธรรม กล่าวย้ำเตือน

เมื่อถามว่า มีความพยายามที่จะทำให้ ว่าที่ผู้สมัครของพรรค ขาดคุณสมบัติหรือไม่ "เลขาธิการพรรคเพื่อไทย" กล่าวว่า ก็อยู่ที่ข้อเท็จจริงขณะนี้เรายังไม่กล่าวหาใคร เพียงแต่ว่ามันเกิดบรรยากาศแบบนี้ทำให้เกิดความไม่สบายใจกลายเป็นว่ารัฐใช้อำนาจต่างๆดำเนินการได้ ขณะที่คดีความหลายฝ่ายที่อยู่ ฝั่งรัฐบาลเอง คดีความกับไม่ค่อยคืบหน้าเท่าใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนาฬิกา (กรณีกล่าวหานาฬิกาหรู ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม แก้ต่างเพื่อนให้ยืมมาใส่) และเรื่องต่างๆ เป็นปัญหาและยืดเยื้อไปหมด แต่เมื่อเป็นคดีของฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม ก็กลายเป็นคดีความขึ้นมามากมาย ตนก็ไม่อยากให้เกิดบรรยากาศแบบนั้น บรรยากาศที่คนเขาจะรู้สึกไปในทางที่ไม่ดี อยากให้รัฐหลีกเลี่ยงที่จะใช้อำนาจก่อให้เกิดรู้สึกที่ไม่ดี ไม่เข้าใจ

"ถ้ารัฐบาลวันนี้ฟังผลโพลหลายแห่งบอกว่ารัฐบาลดูเหมือนจะดี กำลังได้รับความนิยม เลือกตั้งเลยครับเร็วๆ ประชาชนจะได้ตัดสิน อยากให้รัฐบาลเดินหน้าไปสู่ ความรู้สึกที่ทุกคนคิดว่าเรากำลังเข้าสู่กฎกติกาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย กำลังทำให้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นอย่างยุติธรรมกับทุกๆ ฝ่ายดีกว่า เวลานี้หลายอย่างถ้าอะไรที่เป็นเป็นเรื่องที่จะเกิดความไม่ชัดเจนคลุมเคลือ อย่างเรื่องการเลือกตั้งรอกฤษฎีกาออกก็ดี เรื่อง กระบวนการต่างๆก็ดี หรือเรื่องการตีความว่าการเลือกตั้งจะบรรลุภาย ใน 150 วันชัดเจนอยู่ที่ตรงไหนเฉพาะการเลือกตั้งอย่างเดียวหรือไม่ หรือหมายถึงการคำนวณผลให้เสร็จสิ้นไปด้วยหรือไม่ ก็ตีความโยนกันไปโยนกันมา ผมว่ารัฐบาลไม่ทำสิ่งที่รัฐบาลควรทำ ความชัดเจนหลายอย่างที่ควรชัดเจนไม่เกิด แต่ไปทำเรื่องหลายๆ อย่างให้เกิดปัญหา อันนี้ก็ไม่เป็นดีกับรัฐบาลเอง" นายภูมิธรรม กล่าวย้ำ

เมื่อถามกรณีที่ ป.ป.ช.จะหยิบเรื่องมาตรวจสอบนายชัชชาตินั้น จะส่งผลต่อพรรคในการสนับสนุนนายชัชชาติต่อไปหรือไม่ "นายภูมิธรรม" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราเชื่อว่า เรามีความบริสุทธิ์และสิ่งที่รัฐบาลในอดีตที่ผ่านมาได้ทำมาทั้งการเยียวยา ความเดือดร้อนของผู้คนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความพยายาม ไปจัดการปัญหาเรื่องระบบน้ำหรือการจัดการปัญหา ต่างๆ เราเชื่อว่าเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและทำอย่างตรงไปตรงมาเพื่อผลประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติ ขณะที่สิ่งต่างๆเหล่านี้ถูกเก็บดองไว้ตลอด แต่กลับถูกหยิบออกมาเปิดแค่เป็นประเด็นข่าวทางการเมืองในช่วงนี้ เราถือว่าพยายามสร้างความไม่ชัดเจนและสร้างให้เกิดสับสนทำให้ฝ่ายที่อยู่คนละข้างทางการเมือง ถูกตั้งคำถามอันนี้ก็ไม่ยุติธรรมเท่าใด จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนสิ่งต่างๆเหล่านี้ ซึ่งตนคิดว่าไม่ควรจะใช้กระบวนการแบบนี้มาดำเนินการกับพรรคการเมืองที่ไม่ได้อยู่ฟากรัฐบาล เมื่อถามย้ำว่า ยังจะสนับสนุนนายชัชชาติ ตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้หรือไม่ "เลขาธิการพรรคเพื่อไทย" กล่าวว่า นายชัชชาติก็ยังเป็นบุคลากรสำคัญของพรรคที่จะ เดินหน้าทำงานการเมืองร่วมกันหลังจากนายชัชชาติกลับจากต่างประเทศแล้วก็จะเดินหน้าทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยต่อไป