ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสดิ่งเกือบ 5%

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสดิ่งเกือบ 5%

ราคาน้ำมันดิ่งลงตามตลาดหุ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 2 ปีข้างหน้า

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(20ธ.ค.)ปรับตัวลงกว่า 2 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอ 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 2.29 ดอลลาร์ หรือ 4.8%  ปิดที่ 45.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทรุดตัวลง 4.9% แตะระดับ 45.82 ดอลลาร์/บาร์เรลก่อนหน้านี้ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 2.89 ดอลลาร์ หรือประมาณ 5% ปิดที่ราคา 54.35 ดอลลาร์/บาร์เรล 

ราคาน้ำมันดิ่งลงมากกว่า 30% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. ท่ามกลางปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาด โดยสหรัฐ มีการผลิตน้ำมัน 11.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้สหรัฐเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยแซงหน้ารัสเซีย ซึ่งมีการผลิตน้ำมัน 11.42 ล้านบาร์เรล/วัน และเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของรัสเซีย

ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. สมาชิก 15 ชาติของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 800,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งจะทำให้มีการปรับลดกำลังการผลิตรวม 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า แต่นักวิเคราะห์ ระบุว่า การปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าว ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ตลาดอยู่ในภาวะขาดแคลนน้ำมัน