พรรคเพื่อชาติลุยถิ่นลุงกำนัน "จตุพร พรหมพันธุ์" ยอมรับเรื่องยากแต่พร้อมสู้ อ้อนชาวสุราษฎร์ธานีต้องกล้ายอมรับการเปลี่ยนแปลง เผยตนและลุงกำนันต่างมีบทเรียน
(11 ธ.ค. 61 )ที่ห้องประชุมทะเลใน โรงแรมร้อยเกาะ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. /นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พช.) นายยงยุทธ ติยะไพรัช และคณะ ได้พบประชาชน จ.สุราษฎร์ธานี/ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.สุราษฎร์ธานี และสมาชิกพรรคที่มารอรับประมาณ500คน ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น มีการคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรือง มอบดอกกุหลาบแดงจับมือและขอถ่ายรูป
โดยบรรยากาศบนเวทีเริ่มด้วยนายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ กรรมการพรรคเพื่อชาติ ชาว จ.สุราษฎร์ธานีกล่าวเกี่ยวกับสภาพปัญหาปากท้องประชาชน /สภาพเศรษฐกิจ/ปัญหาราคายาง ราคาปาล์มตกต่ำและที่มาของพรรคเพื่อชาติ ตามด้วยยศวริศ ชูกล่อมหรือเจ๋งดอกจิก /ดร.วิโชติ วัณโณ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนที่จะพบปะกับหัวหน้าพรรค เป็นการเรียกน้ำย่อยกับสมาชิกพรรคก่อน
ต่อมานายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ได้พบประชาชนที่มาต้อนรับและกล่าวว่า ตนมาจากคนขายเรียงเบอร์มาก่อนที่จะมาเป็นนักธุรกิจและมาตั้งพรรคการเมืองเพราะทนเห็นสังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ปัจจุบันนี้ประชาชนส่วนใหญ่มีความลำบากอย่างแสนสาหัส คนรวยกระจุกจนกระจายไม่ได้ ต้องการเข้ามาช่วยเหลือ หากได้เป็นรัฐบาลจะช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าการเกษตร แก้ปัญหาชาวประมง หากสินค้าราคาสูงขึ้น สัตว์น้ำมีราคาดีขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นด้วย
ตามด้วยนายยงยุทธ ติยะไพรัช กล่าวว่า ตนเองเป็นเพียงภารโรงของพรรค ที่ค่อยช่วยเหลืองานทุกอย่างในพรรคไม่ได้หวังตำแหน่งใด ๆ ในพรรค เหมือนคุณจตุพร พรหมพันธุ์ เพราะทนเห็นความยากลำบากของประชาชนไม่ได้ โดยตนเองเคยมาพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีครั้งแรกเมื่อ 20 ปีที่แล้วและครั้งนี้มาเป็นครั้งที่ 2 เห็นความแตกต่างชัดเจน ครั้งแรกเห็นชาวสุราษฎร์ธานียิ้มแย้มแจ่มใส แต่ครั้งนี้พบแต่ความเศร้าหมอง บ่นแต่เรื่องปัญหาราคายาง ราคาปาล์มตกต่ำ ทั้งนี้พรรคเพื่อชาติไม่คาดการณ์จำนวน ส.ส.ในจ.สุราษฎร์ธานีหรือจังหวัดต่าง ๆ ของภาคใต้เพียงแต่ขอให้ประชาชนได้ไว้วางใจให้กับคนที่ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างพรรคเพื่อชาติบ้าง
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวเป็นคนหลังสุด กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติ เป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ ที่มีนักการเมืองเลือดใหม่มากกว่าอดีตนักการเมือง เพราะต้องการสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ การจะได้รับการเลือกตั้งหรือไม่อยู่ที่ประชาชน แต่พรรคจะส่งผู้สมัครทั่วประเทศ350เขต รวมทั้งภาคใต้ที่พรรคประชาธิปัตย์ผูกขาดมานาน
สำหรับพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานีนั้นเป็นบ้านเกิดของตนเองคาดหวังว่าจะได้รับการเปลี่ยนแปลงบ้างแม้ว่าจะเป็นเรื่องยาก ถ้าคิดเรื่องคะแนนการต่อสู้ทางการเมืองก็เป็นเรื่องที่ลำบากหากไม่คิดที่จะต่อสู้ แต่ถ้าคิดเรื่องการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนและปัญหาชาติเรื่องผลลัพธ์การเลือกตั้งเป็นเรื่องรองแต่เรื่องชาติบ้านเมืองเป็นเรื่องใหญ่
ซึ่งพี่น้องประชาชนน่าจะเข้าใจดีว่าไม่มีใครแก้ไขปัญหาให้เขาได้ เขาต้องลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาร่วมกันเปิดกว้างรับฟังกับแนวคิดการแก้ไขปัญหาต่างๆทั้งเรื่องยางพารา / ปาล์มน้ำมัน /ประมง/ปัญหาท่องเที่ยวและปัญหาทุกๆอย่างไม่มีใครทราบดีเท่ากับพี่น้องประชาชนจ.สุราษฎร์ธานีและพี่น้องชาวภาคใต้
นายจตุพร กล่าวอีกว่า แนวทางการเมืองปัจจุบันนี้ยอมรับว่ายากลำบากพอสมควร แต่เป็นเรื่องท้าทาย และเชื่อว่าคนไทยนั้นไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบยิ่งมีการเอารัดเอาเปรียบเท่าไหร่ผลลัพธ์จะออกตรงข้ามเสมอดังที่ตนเคยพูดเสมอว่ารัฐบาลใดที่ดูแลการเลือกตั้งใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบแพ้ทุกราย
นอกจากนั้นนายจตุพร ยังได้กล่าวถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า ต่างฝ่ายต่างมีบทเรียนกันเพียงแต่ว่าจะนำบทเรียนนั้นมาปรับกับการร่วมกันแก้ไขปัญหาชาติหรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะจับมือกัน เพียงแต่ละฝ่ายต่างมีบทเรียน ต้องประคับประคองไปให้ถึงจุดเลือกตั้งให้ได้