"สุดารัตน์ เกยุราพันธธุ์" เหน็บเลือกตั้งส่อเค้าไม่ยุติธรรม ระบุการไม่ใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศทำให้ประชาชนสับสน
วันที่ 10 ธันวาคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานฝ่ายยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาลงพื้นที่รับสมัคร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในเขต จ.เชียงใหม่ ที่่ทำการพรรคเพื่อไทย สาขาเชียงใหม่ ถนนลอยเคราะห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และในช่วงบ่ายได้ไปเดินเที่ยวชมหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นก็มีการไปสักการะอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
โดยหลังจากสักการะเสร็จสิ้น คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่หัวหน้า คสช.ใช้ม.44 สั่งห้ามไม่ให้มีชื่อพรรคและโลโก้พรรคบนบัตรเลือกตั้ง จะทำให้เป็นการสร้างความได้เปรียบหรือไม่ตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตกันก่อนหน้านี้ว่า คงไม่ใช่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียว แต่ประชาชนทั่วไปคงมองเห็นเป็นเรื่องตลกไปแล้วว่าตกลงมันคืออะไร การเลือกตั้งคือการเลือกตั้งที่ในระบอบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญก็กำหนดอยู่แล้วว่า ผู้ที่จะลงสมัครเลือกตั้งจะต้องสังกัดพรรค ในนิยามความหมายหรือเป้าหมายระบุว่า พรรคการเมืองต้องรับผิดชอบต่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมืองก็ต้องคัดเลือกคนที่ดีมาลงสมัครและถ้าคนนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่ดี พรรคต้องรับผิดชอบตามนิยามความหมายและตามกฎหมายด้วย
แต่เมื่อถึงเวลาแล้ว ในบัตรเลือกตั้งไม่มีชื่อพรรค ไม่มีโลโก้พรรค เป็นใครอะไรก็ได้ มันขัดกันไปหมด ทำให้มองไม่เห็นแนวทางการปฎิรูปทางการเมืองให้ดีขึ้น มองเห็นแต่สิ่งที่คิดว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบ พรรคการเมืองอื่นๆให้มากที่สุดไม่คำนึงว่าหลักเกณฑ์ที่จะทำนั้น ไม่ถูกหลักเกณฑ์หรือไม่มีหลักเกณฑ์ด้วยซ้ำไป สิ่งที่ทำไม่มีหลักเกณฑ์หรือบิดเบี้ยวไปจากปกติสากล
"นี่ไม่ใช่การเลือกตั้งครั้งแรกในโลก บนโลกนี้เราเลือกกันมานับครั้งไม่ถ้วน ในตอนนี้มีการพยายามจะทิ้งหลักเกณฑ์ ทิ้งหลักการ โดยที่จะใช้อำนาจเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น หลักเกณฑ์ต่างๆที่ออกมาควบคุมพรรคการเมืองก็ไม่มีความหมายอะไร และกกต.ก็ไม่ควรอยู่ใต้อาณัติของหัวหน้าคสช. ต้องเรียกร้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และความกล้าหาญกลับคืนมา ซึ่งอยากจะให้กำลังใจ กกต. เรียกร้องอำนาจและศักดิ์ศรีที่จะจัดการเลือกตั้ง ให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม ปราศจากการซื้อเสียง ปราศจากอำนาจรัฐ"คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคำสั่งประกาศิตที่บอกว่า ห้ามใส่ชื่อพรรคแล้ว กกต.ทำตาม ถือเป็นสิ่งที่กกต.ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ฝากถึงประชาชนให้ร่วมรณรงค์แฟร์อีเล็คชั่น การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม การเลือกตั้งที่ปราศจากการซื้อเสียง การใช้อำนาจรัฐ และการโกงการเลือกตั้ง แค่นี้ก็จะเป็นผลดีกับประเทศ
เมื่อถามถึงประเด็นที่การเลือกตั้งในครั้งนี้จะยกเลิกระบบพรรคเดียวหมายเลขเดียวทั่วประเทศ มาใช้เป็นเขตละ 1 หมายเลข จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ให้ความเห็นว่า จริงๆแล้วควรจะเป็นเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ เพราะตามกติกาดูแล้วจะทำให้สับสนวุ่นวาย มีการพยายามจะเอารัดเอาเปรียบที่สุด พยายามเขียนให้มั่วๆเข้าไว้ เพื่อตั้งใจจะให้คะแนนแตกกระจาย
"ยกตัวอย่างในถนนลาดพร้าวมี 4 เขต แต่ละเขตคนละหมายเลขแล้วประชาชนจะสับสนหรือไม่ แล้วมีจะมีประโยชน์อะไร แล้ววันนี้ก็เห็นผลถึงการกระทำแบบนี้แล้ว ก็เริ่มมาอ้างแล้วไม่ทราบว่าอยู่ในแผนโรดแมปหรือเปล่า ที่จะทำให้วุ่นวายแบบนี้ เริ่มมีข้ออ้างแล้วว่า พิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ทัน ถ้าลองใช้ ม.44 บังคับใช้ให้ใช้เขตเดียวเบอร์เดียวกันทั่วประเทศ นี่คือการสงเสริมประชาธิปไตย พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค พรรคต้องรับผิดชอบทุกการกระทำ และพรรคต้องพร้อมรับการตัดสินใจจากประชาชน แต่วันนี้สับสนกันไปหมด ถ้าใช้ม.44 แบ่งเขตก็ได้ ก็ลองใช้ม.44 สั่งให้ใช้เขตเดียวเบอร์เดียวทั่วประเทศได้หรือไม่"คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวยังถามต่อถึงประเด็นที่ กกต.ออกมาบอกว่าถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการร้องเรียน การฟ้องร้องกันมากมาย อาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบจะใช้คำพูดไหน ต้องให้ประชาชนตัดสินใจกันเอาเอง กับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ในวันที่กำลังจะคืนประชาธิปไตย แล้วเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ได้พัฒนาประชาธิปไตยให้ดีขึ้น ก็ขอฝากประชาชนช่วยกันดู ส่วนตัวเราก็หวังให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.นี้อยู่ แต่ก็ไม่ทราบว่าจะมีเทคนิค แทคติกอะไรกันอีกหรือไม่