LIT - ซื้อ

LIT - ซื้อ

กำไร 9M61 เติบโต 4% แผ่วลงจึงปรับลดคาดการณ์กำไรปี 61-62

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • 9M61 กำไรสุทธิเติบโตแผ่วลงจากช่วงต้นปีจากการปรับโครงสร้างรายได้ : ผลการดำเนินงานงวด 9M61 มีรายได้รวม 337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%YoY และมีกำไรสุทธิ 115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%YoY โดยมีพอร์ตลูกหนี้สินเชื่ออยู่ที่ 2,330 ล้านบาท คิดเป็น 86% ของเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อไม่น้อยกว่า 2,690 ล้านบาท ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อในช่วง 3Q61 แผ่วลงจากการจัดโครงสร้างรายได้ให้เหมาะสมโดยชะลอการปล่อยสินเชื่อในภาคก่อสร้างให้มีสัดส่วนไม่เกิน 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวมเพื่อมีการกระจายตัวของสินเชื่อที่ดีและปรับเร่งการขยายตัวของสินเชื่อแฟคตอริ่งซึ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นโดยลดความเสี่ยงด้วยการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าเดิม  สำหรับยอดสำรองค่าเผื่อหนี้สูญใน 3Q61 คิดเป็น 6.03% ของยอดลูกหนี้คงเหลือซึ่ง เป็นอัตราเร่งตัวขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปีเพื่อรองรับการบังคับใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9 ที่จะเริ่มบังคับใช้ 1 ม.ค.2563
  • ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61-62 ลดลง 21% และ 31% ตามลำดับ : กำไรงวด 9M61 คิดเป็น 61% ของประมาณการทั้งปีที่ 189 ล้านบาท ผลของการปรับโครงสร้างรายได้ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับลดสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ปี 61 เหลือ 13% จากเดิม 22% ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 61 ลดลง21%  เหลือ 150 ล้านบาทซึ่งยังเติบโต 3% จากปี 60  โดยคาดรายได้รวมในช่วง 4Q61 เติบโตราว 13%QoQ เป็น 135 ล้านบาทแต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและสำรองหนี้สูญที่คาดจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องส่งผลให้คาดการณ์กำไรอยู่ที่ราว 35 ล้านบาท ลดลง 10%QoQ สำหรับประมาณการปี 62 ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการรายได้ลดลง 10%QoQ% ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี62ลดลง31% เหลือ 175 ล้านบาทซึ่งเติบโต 17% จากปี 61
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับมาใช้ราคาเหมาะสมสำหรับปี 62 ที่ 11 บาท : ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของบริษัทตามการทยอยเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการSMEที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน  ฝ่ายวิจัยปรับลดสมมติฐาน Prospect PE ที่ใช้ประเมินราคาเหมาะสมเหลือ 17 เท่าจากเดิม  20 เท่าเพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของกำไรที่แผ่วลงและความเสี่ยงทางการเงินที่เพิ่มขึ้นได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 11 บาทสำหรับปี 62 ซึ่งยังมี upside จากราคาปิดล่าสุด  จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง :   1. การได้งานใหม่ชะลอตัว 2. ต้นทุนการเงินสูงขึ้น 3. NPL สูงขึ้น