'ประยุทธ์' เยือนเยอรมนี 27–29 พ.ย.นี้

'ประยุทธ์' เยือนเยอรมนี 27–29 พ.ย.นี้

"ประยุทธ์" เยือนเยอรมนี 27-29 พ.ย.นี้ พบ "อังเกลา แมร์เคล" ถกความเป็นหุ้นส่วนอาชีวศึกษาและเทคโนโลยีสีเขียว พร้อมหารือภาคเอกชน

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤศจิกายน 2561 โอกาสนี้ นายกฯจะหารือกับนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เพื่อเน้นย้ำความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับทวิภาคี โดยมีสาขาเป้าหมาย ได้แก่ 1. อาชีวศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเชิญชวนให้เยอรมนีเป็นหุ้นส่วนกับสถาบันอาชีวศึกษาของไทย เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขา โดยมีเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมแรงงานอาชีพของภูมิภาค 2. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยีสีเขียว ที่ไทยประสงค์ให้เยอรมนีถ่ายทอดเทคโนโลยีสีเขียวให้แก่ไทย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและกระชับความเป็นหุ้นส่วนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะหารือถึงความร่วมมือในการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในภูมิภาค โดยจะเชิญชวนให้เยอรมนีเป็นหุ้นส่วนด้านการพัฒนาของ ACMECS และความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในกรอบอาเซียนในฐานะที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปี 2562

สำหรับภารกิจที่สำคัญอื่น ๆ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปศึกษาดูงานที่ Fraunhofer IPK เข้าร่วม กิจกรรม Thai-German Business Forum : Asia-Europe Partnership for the Future พบหารือกับผู้บริหารบริษัทเอกชนเยอรมนี ร่วมรับประทานอาหารค่ำกับภาคเอกชนเยอรมนีและภาคเอกชนไทย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนเยอรมัน พร้อมทั้งเชิญชวนให้มาลงทุนใน EEC ซึ่งมีบริษัทสำคัญของเยอรมนีแสดงความสนใจขอเข้าหารือเรื่องการร่วมลงทุนที่ไทยหลายบริษัท ได้แก่ บริษัท เดมเลอร์ AG บริษัท Dräxlmaier บริษัท BMW และสมาคมระบบรางเยอรมนี (Verband Deutsche Bahnindustrie: VDB)

พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า การเดินทางเยือนครั้งแรกของนายกฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ไทยและเยอรมนี ภายหลังจากที่สหภาพยุโรปปรับข้อมติต่อไทยและเป็นการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนที่ยั่งยืน ผ่านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4.0 เนื่องจากเยอรมนีเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าและเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม 4.0 มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพ SMEs และ Startup ทั้งนี้การเยือนสาธารณรัฐเยอรมนีของนายกฯ ยังสะท้อนให้เห็นว่า นายกฯได้รับความยอมรับ และความเชื่อมั่นทางการเมืองจากประเทศชั้นนำที่มีความสำคัญของโลก หลังจากก่อนหน้านี้ได้เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และได้เข้าร่วมการประชุมสำคัญๆ ในเวทีระหว่างประเทศ