ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลง

ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลง

หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งสูงสุดรอบเกือบ 1 ปี

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (22พ.ย.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวลง หลังมีการเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้วแต่การคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้า ช่วยจำกัดช่วงขาลงของตลาด

ทั้งนี้ ตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐ ปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า แต่ในการซื้อขายผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ยังคงมีการซื้อขายตามปกติ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. ของตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 39 เซนต์  ปิดตลาดที่ราคา 54.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 23 เซนต์ ปิดที่ราคา 63.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 446.91 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว สวนทางสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว  และอีไอเอ ยังระบุด้วยว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐยังคงอยู่ที่ระดับ 11.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะที่นักลงทุนจับตากลุ่มโอเปก ซึ่งอาจปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้า โดยนายซูฮาอิล บิน โมฮัมเหม็ด ฟาราจ ฟาริส อัล มาสโรอี ประธานโอเปก และนายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปก กล่าวว่า สมาชิกโอเปกบรรลุฉันทามติที่จะสนับสนุนให้มีการปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 6 ธ.ค. เพื่อสร้างความสมดุลต่อตลาดน้ำมัน

ทั้งนี้ โอเปกจะจัดการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 6 ธ.ค.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในปีหน้า

แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกและประเทศพันธมิตรกำลังหารือกันในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากถึง 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งเป็นการปรับลดมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อสกัดการทรุดตัวของราคาน้ำมัน