'จตุพร' เดินสาย 3 จ.ใต้ ทักทายเพื่อนเก่า 'อดีตกำนันโต๊ะเด็ง'

นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช.หรือ กลุ่มเสื้อแดง และคณะ จำนวน8คน ที่ร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย อาทิ นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ อดีตโฆษก นปช. เจ๋ง ดอกจิก นายวีระพงษ์ สังข์ทอง ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อชาติ ได้ร่วมเดินทางมาพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมา จ.นราธิวาสนั้น ได้มีการพบปะกับพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธและมุสลิม ที่เดินทางมาสมาชิกเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ในการโหวตหาตัวแทนพรรคเพื่อไทยที่จังหวัดยะลา

โดยนายจตุพร และคณะ ได้เดินทางมาพบปะพี่น้องประชาชน  ที่ พีบดินทร์สเตเดี้ยม ซึ่งตั้งอยู่ ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส เมื่อคณะเดินทางมาถึงนายจตุพร และคณะ ได้รับการต้อนรับจากสมาชิกของพรรคเพื่อชาติ ด้วยความอบอุ่นโดยการมีมอบดอกกุหลาบสีแดง พร้อมทั้งมีการเดินทักทายด้วยความเป็นกันเอง

ก่อนที่จะเข้าพิธีการนั้น น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง อดีตผู้ประกาศข่าวสปริงนิวส์ ได้ถือโอกาสแนะนำตัวกับสมาชิกของพรรค และแนะนำตัวนายจตุพร และคณะให้สมาชิกพรรคเพื่อชาติได้รับทราบ ในการรับเป็นพิธีกรของพรรคเพื่อชาติ ก่อนที่จะให้คณะที่ติดตามนายจตุพร ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยพบปะกับสมาชิกของพรรคทีละคน ซึ่งนายจตุพร ได้กล่าวปราศรัยเป็นคนสุดท้าย 

อย่างไรก็ตาม จังหวะที่นายจตุพร ปราศรัยนั้น ได้เหลือบไปเห็นนายนายอนุพงศ์ พันธชยางกูร อดีตกำนันโต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่ได้รู้จักในขณะถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ ในฐานะตกเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาท ขณะที่ต่อสู้ในคดีปล้นปืนเมื่อปี2447 ที่ได้เดินทางมาพบนายจตุพร และคณะเป็นการส่วนตัว ทำให้สมาชิกพรรคเพื่อชาติต่างพากันตบมือ โดยนายจตุพร ได้มีการทักทายเล็กน้อยในฐานะเพื่อนเก่า ก่อนที่นายจตุพร จะปราศรัยกับสมาชิกของพรรคเพื่อชาติ 

โดยภาพรวมพอสรุปใจความได้ว่า บ้านเมืองเรามีการแก้ไขปัญหาที่ค่อยข้างแปลกในทุกเรื่อง อาทิ ถ้าเป็นเรื่องของความรุนแรงต้องรอให้มีการสูญเสียก่อนจึงจะมาแก้ไขปัญหา ไม่ใช่แก้ปัญหาก่อนที่จะมีความสูญเสีย ตนไม่ต้องการที่จะพูดมากและก่อให้เกิดความแตกแยก แต่ที่พูดมาตลอดทุกปัญหาเพื่อให้นำไปแก้ไข เพราะมีจุดยืนสำหรับเรื่องประชาธิปไตย แม้ความคิดจะไม่ตรงกันแต่เมื่อรับฟังทุกปัญหา ที่สามารถที่จะบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้

นายจตุพร เปิดเผยก่อนเดินทางไปปัตตานีว่า การอนุญาตให้พรรคการเมืองหาผู้สมัครจนถึงวันสมัครรับเลือกตั้งนั้น หมายถึงว่าการสังกัดพรรค90วัน คำสั่งนี้ไม่มีจริงใช่หรือไม่ เพราะถ้าเลือกตั้งวันที่24ก.พ.62ถ้ายังมี90วัน สมาชิกพรรคแต่ละคนที่จะสมัครรับเลือกตั้งก่อนวันที่26เดือนนี้ แต่คำสั่งดังกล่าวยังมีข้อสงสัยว่า เรื่อง90วันนั้นยังไม่มีต่อไปใช่หรือไม่ เพราะถ้ามีอยู่ก็ไม่มีคำสั่ง อยากจะให้ กกต.อธิบายให้ชัดเจน ว่า90วันนี้ยกเลิกและสามารถซื้อขายในตลาดการเมืองเหมือนในอดีต อย่างที่ผมได้ประกาศว่า รัฐใดหรือรัฐบาลรักษาการใดในอดีตนั้นที่ใช้อำนาจรัฐมากเท่าไร ผลการเลือกตั้งยิ่งพ่ายแพ้มากเท่านั้น เพราะฉะนั้น ณ วันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การทำให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรมเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาอย่างไรประชาชนจะได้มีความสบายใจ กกต.จะต้องช่วยสร้างบรรยากาศ ให้การเลือกตั้งคลี่คลายปัญหาชาติ