สารพัดปัจจัยลบฉุดดาวโจนส์ดิ่งกว่า300จุด

สารพัดปัจจัยลบฉุดดาวโจนส์ดิ่งกว่า300จุด

ทั้งเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยาน และความตึงเครียดด้านความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและซาอุดิอาระเบีย

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (18ต.ค.)ตามเวลาสหรัฐ  ร่วงลงกว่า300 จุด  จากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ การทรุดตัวของตลาดหุ้นจีน ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน  ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก  ความวิตกเกี่ยวกับราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งสูงเกินปัจจัยพื้นฐาน และความตึงเครียดด้านความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและซาอุดิอาระเบีย

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง 327.23 จุดหรือ 1.3 % ปิดที่ 25,379.45 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 40.43 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 2,768.78  จุดและดัชนีแนสแด็กร่วง 157.56 จุดหรือ 2.1% ปิดที่ 7,485.14 จุด โดยในเดือนนี้ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงไปมากกว่า 3%แล้ว

เฟด เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ก.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ และควบคุมอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงจากภาวะไร้สมดุลทางการเงิน

หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีพุ่งทะลุระดับ 2.90% ในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.213% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.384% ซึ่งราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

นอกจากนี้ นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ทวีตข้อความระบุว่า เขาตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมงานประชุมฟิวเจอร์ อินเวสต์เมนท์ อินนิชิเอทีฟ (เอฟไอไอ) ที่กรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขายืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ มีขึ้นหลังได้หารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐแล้ว แต่ปฏิเสธถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้