แม่กำเงินแสนยื่นประกัน หนุ่มแชทลวงสาว 19 ข่มขืนชิงทรัพย์

แม่กำเงินแสนยื่นประกัน หนุ่มแชทลวงสาว 19 ข่มขืนชิงทรัพย์

ศาลอนุญาตฝากขัง หนุ่มแชทลวงสาว 19 ข่มขืนชิงทรัพย์ หลังตร.คุมตัวฝากขังครั้งแรก 3 ข้อหา 12 วัน ด้านแม่ยื่นเงินสด 1.4 แสนขอประกัน รอลุ้นผล

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.61 ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถ.สวนผัก พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้ควบคุมตัว นายศาสฑฎา อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ จ.501/2561 ลงวันที่ 12 ต.ค.61 คดีแชทะลวงสาวอายุ 19 ปีข่มขืนและใช้กำลังประทุษร้ายชิงทรัพย์ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 ต.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 6 ปากและรอผลตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์ สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุ สาวผู้กล่าวหา รู้จักกับผู้ต้องหาทางเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อ พิกะจู้ ปล่อยแสง (ยังคง สัทธาในคำว่าพวกพ้องเสมอ) และเคยทักทายกันผ่านการส่งข้อความแต่ไม่บ่อยครั้ง กระทั่งวันที่ 5 ต.ค.61 เวลา ประมาณ 21.00 น. ผู้ต้องหาพิมพ์ข้อความชักชวนผู้กล่าวหาไปเที่ยวโดยจะขับรถมาหา ซึ่งตอบตกลงกันแล้วส่งพิกัดที่อยู่ไปให้ ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. ผู้ต้องหาจึงขับรถยนต์มารับแล้วบอกว่าจะพาไปเที่ยวผับแถลงตลิ่งชันจนเวลา 00.30 น. ของวันที่ 6 ต.ค. ผู้ต้องหาขับรถพาผู้กล่าวหามาที่ หมู่บ้านมหาดไทย 2 แขวงบางระนาด เขตตลิ่งชัน กทม. แล้วขับรถไปจอดที่บ้านปูนสูง 2 ชั้น ประตูรั้วสีฟ้า พร้อมบอกให้ผู้กล่าวหาเดินเข้าไปในบ้าน จากนั้นผู้ต้องหาปิดประตูบ้านและใช้กุญแจล็อก จนเวลา 02.00 น.ผู้ต้องหาให้ผู้กล่าวหารออยู่ชั้น 2 ของบ้านซึ่งห้องนั้นมีฟูกที่นอนอยู่ด้วย

เมื่อผู้ต้องหาเดินเข้ามาก็ปิดล็อกประตูห้องแล้วกระทำชำเรา หลังก่อเหตุผู้ต้องหา ก็ให้ผู้กล่าวหาอยู่แต่ในบ้านไม่ให้ออกไปไหน ถึงเมื่อเวลา 04.00 น. ผู้ต้องหาก็เข้ามาในห้อง บอกให้ผู้กล่าวหาส่งกระเป๋าสะพายข้างสีดำและโทรศัพท์กับผู้ต้องหา รวมทั้งให้ถอดแหวน แต่ผู้กล่าวหาไม่ยอมถอดแหวน ผู้ต้องหาจึงตบหน้า 3-4 ครั้งแล้วเดินไปหยิบมีดคัตเตอร์มาวางบนข้อมือผู้กล่าวหาพร้อมบีบมือแล้วถอดแหวนไป จนถึงช่วงบ่ายวันดังกล่าว ผู้ต้องหาใช้โทรศัพท์ไปหามารดาของผู้กล่าวหา ให้โอนเงินมา 500 บาท จากนั้นช่วง 16.30 น. ผู้ต้องหาจึงพาผู้กล่าวหาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มแล้วก็นำเงินไปก่อนที่ผู้ต้องหาจะขับรถไป

ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น. ผู้กล่าวหาจึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน โดยวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้เดินทางมามอบตัวที่ สภ.เมืองเพชรบุรี และได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยที่ผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืนและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย , หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก , 339 วรรคสอง ประกอบมาตรา 335 (1)(7) วรรคสาม และมาตรา 310 วรรคแรก เหตุเกิดที่ บ้านเลขที่ 467 หมู่บ้านมหาดไทย 2 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. และบริเวณที่กดเงินหน้าห้างโลตัสเอ็กเพลส สาขาอุดมทรัพย์ แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม.

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้ว ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง ภายหลัง มารดาของนายศาสฑฎาหรือท้อป ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด ประมาณ 1.4 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการฝากขังนี้ ซึ่งคำร้องขอประกันตัวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่