"นายกฯ" เผยอย่ามองอย่างเดียวว่า "รัฐบาล" ดัน "พ.ร.บ.ไซเบอร์" หวังปิดกั้น ยกทุกประเทศพูดเรื่องนี้หมด ชี้เนื้อหาไม่หนัก ถ้าไม่ทำผิด
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.61 เวลา 13.15น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)เตรียมปรับปรุงเนื้อหาร่างพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ที่ผ่านการอนุมัติหลักการจากครม. ผลักดันเข้าสู่การพิจารณาสนช.ให้ทันภายในเดือนต.ค.นี้ว่า เรื่องพ.ร.บ.ไซเบอร์ไม่อยากจะบอกว่าเป็นเพราะรัฐบาลนี้ ทั้งโลกเขากำลังหารือในเรื่องการดูแลเรื่องนี้อยู่ เพราะมันมีภัยไซเบอร์เยอะแยะ เรื่องนี้มันอยู่ใกล้ๆ กันระหว่างเส้นของการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับการทำความผิดกฎหมาย วันนี้เราก็โดนหลายเรื่องด้วยกันทั้งๆ ที่บางทีมันไม่ใช่ข้อเท็จจริงบางทีมันเป็นการกระทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ ก็กลายเป็นว่าเราไปปิดกั้นละเมิดสิทธิของเขา แต่ต้องไปย้อนดูถ้าคนทำผิดกฎหมายอยู่แล้วถูกควบคุมตัวถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายไม่ให้ความเป็นธรรมอันนี้เป็นเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็พยายามอธิบายตลอด ไปต่างประเทศก็อธิบาย มันอาจจะมีความแตกต่างจากบ้านเขาบ้าง ต้องไปแยกแยะให้ออกว่ากลุ่มประเทศทั้งหมดมีกี่กลุ่มประเทศ มีมหาอำนาจ หมู่เกาะ สาธารณรัฐ สหภาพมีหมดทุกประเทศมีการปกครองที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นการปกครองที่แตกต่างกันออก ไปมีกฎหมายเกี่ยวเนื่องตรงกลางอย่างไร เพราะมันมีการใช้โซเชียลมีเดีย ออนไลน์ต่างๆ ในทางเศรษฐกิจด้วย ถ้ามันไม่ใช่ข้อเท็จจริงแล้วโจมตีกันตรงนี้ เศรษฐกิจ ธุรกิจก็ไปกันหมด ดังนั้น จำเป็นต้องมีกฎหมายกลางออกมาซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ไปละเมิดใคร ต้องระมัดระวัง อย่าไปมองอย่างเดียวว่ารัฐบาลต้องการจะปิดกั้น ตนอยากให้มองว่าตนไปต่างประเทศทุกประเทศพูดเรื่องนี้หมด มีการหารือเรื่องความมั่นคงทางไซเบอร์ออกมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นวันหน้ามามันจะมีอันตรายในการใช้ระบบดิจิทัลต่างๆในการทำงาน
เมื่อถามว่า ส่วนตัวนายกฯคิดว่าเนื้อหาหนักกว่าพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ผมว่ามันก็ไม่หนักสักอัน ถ้าคุณไม่ได้ทำความผิดจากที่เขาเขียนไว้ แล้ววันนี้หลายคนนิสัยคนไทยก็ปล่อยๆไปเถอะ ขี้เกียจไปยุ่งกับเขา ขี้เกียจไปขึ้นศาล มันเลยได้ใจกันไปใหญ่เขียนกันไปใหญ่ ผมว่ามันก็ขึ้นอยู่กับความอดทน เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล มันขึ้นกับว่าจะอดทนกันได้แค่ไหนอย่างไร แต่อย่าลืมว่ากฎหมายคือกฎหมาย ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามมีปัญหาขึ้นมามากๆ แล้วมันเป็นคดีขึ้นมาท่านก็จะเดือดร้อน ไม่ได้ขู่ใครผมเองก็ต้องระมัดระวังในการใช้กฎหมายของผม”