เลขากกต. แจงปรับเกณฑ์อนุมัติจัดตั้งพรรคอำนวยความสะดวกทุกพรรค พร้อมย้ำเตือนอย่าปล่อยคนนอกครอบงำพรรค จนเป็นเหตุให้ถูกยุบพรรค
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและพรรคการเมือง ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้งประเทศ ระหว่างวันที่ 3 -13 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ในทั่วประเทศมีประชาชนและพรรคการเมืองแสดงความเห็นเข้ามายังสำนักงาน กกต.จังหวัด อย่างคึกคัก มีทั้งที่สนับสนุน 1 ใน3 รูปแบบ ที่ กกต. เสนอ และไม่สนับสนุนเลยก็มี ในบางเขตก็ระบุว่า การแบ่งของ กกต.ไม่เป็นธรรมพร้อมเสนอรูปแบบการแบ่งเขตใหม่มา ซึ่งทาง กกต.จังหวัดจะประมวลความเห็นทั้งหมดเสนอมาให้ กกต.พิจารณา ซึ่งการพิจารณาของ กกต.จะยึดตามกฎหมาย โดยคำนึงถึงความใกล้เคียงกันของจำนวนประชากร และพื้นที่เขตติดต่อกัน
เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการปรับเกณฑ์ในการอนุมัติการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ว่า ก่อนหน้านี้ กกต.ยึดหลักอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มการเมืองที่มาขอจดจัดตั้ง เนื่องจากพ.ร.ป.พรรคการเมืองได้กำหนดขั้นตอนและคุณสมบัติของผู้ก่อตั้งไว้แตกต่างจากเดิมมาก เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13หลัก ของผู้ก่อตั้งไม่ตรงกับสำเนาที่ส่งมา หรือถ้าจะตัดออกก็ต้องหักทุนประเดิมพรรคออกไปด้วย แต่ขณะนี้เป็นช่วงใกล้ที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะมีผลใช้บังคับ และกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วันจนถึงวันเลือกตั้ง จึงเห็นว่า กระบวนการจัดตั้งพรรคการเมืองจะต้องมีการเร่งรัด โดย กกต.จะต้องระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจเรื่องเอกสารหลักฐานต่างๆเพื่อให้การจัดตั้งพรรคแล้วเสร็จใน 45 วัน เพื่อที่เมื่อนายทะเบียนรับรองให้เป็นพรรคการเมืองสมบูรณ์ จะได้ไปหาสมาชิกมาสังกัดพรรคให้ทันต่อการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ดังนั้น กลุ่มการเมืองที่จะยื่นจดจัดตั้งก็ควรที่จะทำเอกสารให้พร้อมและถูกต้อง. ทั้งนี้หากมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 วันสุดท้ายที่จะต้องสังกัดพรรค เพื่อให้ครบ 90 วัน คือวันที่ 26 พ.ย.นี้ ซึ่งกกต.จะเร่งพิจารณารับรองให้กับ 16 พรรค ที่มีการยื่นขอจดจัดตั้งอยู่ในขณะนี้ให้ทันตามกำหนดเวลาดังกล่าว ยืนยันว่าการปรับเกณฑ์นี้ไม่ได้ทำเพื่อพรรคใดพรรคหนึ่ง
“สำหรับพรรคการเมืองทั้งใหม่และเก่า นอกจากการหาสมาชิกมาสังกัดพรรคให้ได้ 90 วันเพื่อให้มีสิทธิ์ลงสมัคร ส.ส. แล้ว ยังต้องเร่งในการจัดตั้งสาขาพรรค หรือตัวแทนประจำจังหวัดตามมาตรา 145 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง อย่างน้อยหนึ่งจังหวัดต้องมีหนึ่งสาขาพรรค หรือหนึ่งตัวแทนประจำจังหวัด เพราะตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2561 กำหนดให้เมื่อคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรค ต้องส่งรายชื่อผู้สมัครไปรับฟังความคิดเห็นกับสมาชิกอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นนามธรรม. ตีความว่าต้องรับฟังความเห็นจากทุกจังหวัด เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และส่วนนี้ก็เป็นข้อสงสัยของพรรคเพื่อไทยที่ได้สอบถามในการประชุมระหว่าง กกต.กับพรรคเมือง ซึ่งเรื่องนี้เป็นมติของ กกต. และเราจะทำหนังสือตอบพรรคเพื่อไทยต่อไป”พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว
ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ขอผลการหารือระหว่าง กกต.กับพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า. ทางสำนักงาน กกต.ได้มีการจัดส่งรายงานไปตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้ว โดยเป็นการรวบรวมความเห็นของพรรคการเมือง. ซึ่งรวมถึงข้อเรียกร้องให้ คสช.ปลดล็อกพรรคการเมืองทั้งหมด
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวด้วยว่า ในการหาสมาชิกพรรคการเมืองนั้น ผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคจะต้องเสียค่าธรรมเนียมคนละ 50 บาท แต่ในขณะนี้ได้รับการร้องเรียนว่าแต่ละพรรคพยายามที่จะหาสมาชิกด้วยการเสนอลดค่าสมัคร แจกข้าวสาร เก็บบัตรประชาชน ซึ่งได้ให้ กกต.จังหวัดติดตามตรวจสอบ และอยากจะเตือนไปยังพรรคการเมืองว่าการเสนอให้ สัญญาว่าจะให้ประโยชน์เพื่อให้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นความผิดที่อาจะเป็นเหตุให้ถูกยุบพรรคการเมืองได้ ทั้งนี้รวมไปถึงกรณีการให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคหรือกรรมการบริหารพรรค เข้ามาครอบงำ หรือชี้นำ การดำเนินกิจการของพรรคไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม จนทำให้สมาชิกขาดอิสระการรับบริจาคเงินจากผู้ใดเพื่อกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำอันเป็นบ่อนทำลายความมั่นคง หรือ เสนอสินบนข้าราชการว่าถ้าหากได้รับเลือกตั้งแล้วจะแต่งตั้งให้เป็นตำแหน่งต่างๆ. ซึ่งมีผลต่อการถูกยุบพรรคทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตรวจสอบคลิปนายทักษิณ ชินวัตร พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังอยู่ในขั้นตรวจสอบและเก็บข้อมูลเอาไว้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติมก็จะนำมารวมกัน และจะพิจารณาเมื่อกฎหมายเลือกตั้งมีผลบังคับใช้แล้ว รวมถึงกรณีผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเข้ามาอยู่เบื้องหลังการจัดตั้งพรรค ซึ่งอาจเข้าข่ายว่าเป็นการครอบงำพรรค. หากพบก็ต้องดำเนินการ ไม่ใช่การจ้องจะยุบพรรคนั้นพรรคนี้ และขอให้แต่ละพรรคดูแลไม่ให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามาครอบงำ