LPN - ซื้อ

LPN - ซื้อ

ยอดขายรอรับรู้รายได้เป็นขาขึ้น ส่องกำไรโดดเด่นในไตรมาส 4/61

การปรับตัวลดลงของราคาหุ้น 22 % นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันสะท้อนในการเติบโตของกำไร 9 เดือนแรกของปี 2561 ที่ไม่น่าดึงดูดใจไปมากแล้ว แต่กำไรกำลังจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส4/61 (คิดเป็นประมาณ 50% ของกำไรทั้งปี)  ทั้งนี้ เราเห็นถึงความชัดเจนของกำไรในระยะกลาง-ยาวที่ปรับตัวดีขึ้นมาก หนุนโดยยอดขายรอรับรู้รายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าหุ้นที่ไม่แพงมากนัก ซื้อขายที่ PER ปี 2561 เท่ากับ 9.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2549-2560 ที่ 9.8 เท่า เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายเท่าเดิม สิ้นปี 2561 ที่ 14.20 บาท อ้างอิง PER ที่ 13 เท่า

แนวโน้มกำไรในไตรมาส 3/61 ฟื้นตัวเพียงเล็กๆ แต่จะแข็งแกร่งในไตรมาส 4/61

เราคาดว่ากำไรฟื้นตัวเล็กน้อยในไตรมาส 3/61 ด้วยการกลับมาเติบโต YoY จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/60 หลังจากทรงตัวในครึ่งแรกของปี 2561 อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัยจะขยายตัวอย่างมากจากต่ำสุดในเป็นประวัติการณ์เพียง 25% ในไตรมาส 3/60 (เนื่องจากยอดขายสินค้าคงคลัง) มาอยู่ในระดับปกติที่ 29.5% ในไตรมาส 3/61 กำไรและรายได้น่าจะทรงตัว QoQ ในไตรมาส 3/61 เนื่องจากโครงการคอนโดขนาดเล็กเริ่มโอน (Kaset, มูลค่าโครงการอยู่ที่ 1 พันล้านบาท,ยอดจองซื้อเต็มแล้ว) กำไรจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 4 /61 เนื่องจากการคาดการณ์การเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 140% YoY และ 200% QoQ จากการเริ่มโอน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ Makkasan (2.7 พันล้านบาท , ยอดจองซื้อ 90 %), โครงการ Dindaeng (1.8 พันล้านบาท,ยอดจองซื้อ 70%) และโครงการ BAAN 365 (3.2 พันล้านบาท, ยอดจองซื้อ 56%) อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัยทุบสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปีสูงกว่า 30% ในไตรมาส 4/61

โครงการใหม่ปี 2561 สูงกว่าแผนเพื่อสร้างยอดขายรอรับรู้รายได้

การเปิดตัวโครงการเปิดใหม่ในปี 2561 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 52% มาอยู่ที่ 21 ล้านบาท (โครงการคอนโด 80% และ โครงการแนวราบ 19% สูงกว่าที่วางแผนตอนต้นปีที่วางไว้ที่ 18 พันล้านบาท ดังนั้น เราคาดว่ายอดจองซื้อทั้งหมดจะอยู่ที่ 18.4 พันล้านบาทในปี 2561 (โครงการคอนโด 76% และโครงการแนวราบ 24%) ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 14% ในปีนี้ แต่ต่ำกว่าเป้าหมายของผู้บริหารที่ 20 พันล้านบาท ทั้งนี้ LPN ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาดโครงการแนวราบในปี 2561 โดยมียอดจองซื้อโครงการแนวราบที่คาดว่าจะเติบโต 150% YoY กลบกับยอดจองซื้อที่ลดลง 14% ในโครงการคอนโดสำหรับรายไตรมาสนั้นเราประมาณการการเติบโตยอดจองซื้อรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 13% YoY มาอยู่ที่ 5.4 พันล้านบาทในไตรมาส 3/61 และ 12%YoY มาอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาทในไตรมาส 4/61 ทั้งนี้ ด้วยการเปิดตัวโครงการคึกคักต่อเนื่อง ทำให้เราคาดยอดขายรอรับรู้รายได้ของ LPN จะเข้าสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 1.5 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2561

มั่นใจเป้าหมายรายได้ในปี 2561 และความชัดเจนมากขึ้นของรายได้ที่ดีต่อเนื่องในปี 2562

เราคาดว่า LPN จะบรรลุเป้าหมายรายได้จากการขายอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2561 ที่ 12 พันล้านบาท ซึ่งเติบโต 38% หลังจากการหดตัวเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกันในปี 2559 และ 2560 ทั้งนี้ความชัดเจนของรายได้จากการอสังหาฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสาคัญ เนื่องจากเราคาดยอดขายรอรับรู้รายได้ของบริษัท ณ ปลายเดือนก.ย. ปี 2561 คิดเป็นประะมาณ 80% ของประมาณการรายได้จากการขายอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัยของเรา ในปี 2561 และ 41% ของปี 2562 ซึ่งสูงสุดเป็นลำดับสองในกลุ่มอสังหาฯ ที่เราให้คำแนะนำ โดยเราคงประมาณการว่ารายได้จากอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัยปี 2562 เติบโต 12% อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัยอยู่ในระหว่างการฟื้นตัวมาในระดับปกติที่ 30.0% ในปี 2561 จากระดับต่ำสุดที่ 28.5% ในปี 2560 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30.4% ในปี 2562 ทั้งนี้ในอนาคตบริษัทมีแนวโน้มเปิดตัวโครงการที่สร้างความแข็งแกร่ง และความเสี่ยงต่ำที่เป็นโครงการแนวราบและโครงการที่สร้างรายได้ประจำ (recurring income) โดย LPN มีแผนจะเพิ่มสัดส่วนโครงการแนวราบจาก 20% ของอสังหาฯ เพื่อขายทั้งหมด (portfolio) มาอยู่ที่ 30% ในระยะกลาง