ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ แกว่งตัวทิศทางขาลง เหตุปัจจัยลบนอก-ในประเทศกดดัน

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ แกว่งตัวทิศทางขาลง เหตุปัจจัยลบนอก-ในประเทศกดดัน

โบรกฯ คาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ แกว่งตัวในทิศทางปรับตัวลดลง เหตุ สงครามการค้าสหรัฐกับจีน -อีซีบี ประกาศลดวงเงินQE -กำไรบจ.ไตรมาส3/2561 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า

            บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเอสแอล จำกัด คาดดัชนีตลาดหุ้นไทย ในสัปดาห์นี้ จะแกว่งตัวในทิศทางปรับตัวลดลง(Sideway Down) ในกรอบ 1,730 – 1,770 จุด โดยมองว่าตลาดตอบรับปัจจัยบวกจากการเมืองภายในประเทศไปมากในช่วงกลาง ถึงปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา (ดัชนีฯ ปรับเพิ่ม 84 จุด หรือประมาณ 5%) ขณะที่ความชัดเจนเรื่องการปลดล๊อกทางการเมืองจะเกิดขึ้นอีกครั้งหลัง พ.ร.ป. ถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการ (11 ธ.ค.)

        ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยจะยังมีปัจจัยกดดัน ต่อหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวจากกรณีสื่อออนไลน์ของจีนได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามบินดอนเมืองทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวจีน เป็นปัจจัยกดดันระยะสั้น , สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน บล.เอเอสแอลประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้นำสหรัฐฯ จะใช้มาตรการทางภาษีที่เหลืออีก 2.67 แสนล้านเหรียญฯ ก่อน Midterm Elections ของสหรัฐฯ (6 พ.ย.), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มทยอยลดวงเงิน QE เหลือ 1.5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน (เดิม 3 หมื่นล้านยูโร) กระทบสภาพคล่องของระบบ และ การทยอยประกาศผลประกอบการ ไตรมาส3/2561ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะลดลง จาก ไตรมาส2/2561โดยเฉพาะจากผลประกอบการในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่อย่าง กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงานปิโตรเคมี และกลุ่ม ICT

        สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำให้นักลงทุนเลือก ลงทุนเป็นรายตัว โดยเน้น กลุ่ม เติบโตจากเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงแข็งแกร่ง , กลุ่ม Defensive Stock เพื่อรองรับตลาดที่ผันผวนได้จากความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างชาติ และ กลุ่มพลังงานที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของราคาน้้ามัน ซึ่งบริษัทแนะนำ AMATA BCPG, BJC, BPP, PLANB, PLAT ,PTTEP, ROBINS TOP และ WHA