นายกฯรู้ตัวเอง! พูดมากคนไม่ชอบ ตอบสื่อ 'การเมืองไม่เอาแล้ว'

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.61 เวลา 09.00 น. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานสัมมนาและแสดงนิทรรศการนานาชาติ “Digital Thailand Big Bang 2018 : โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน : Thailand Big Data” โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. ทูตานุทูต และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ พัฒนา การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ มีการปฏิรูปโครงสร้างดิจิทัลเพื่อสนับสนุนโครงสร้างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล การทำยุทธศาสตร์ชาติแม้ระยะยาว แต่ทุกประเทศในโลกใบนี้จำเป็นต้องมีการเจริญเติบโตที่เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง หากอยากให้ทุกอย่างเป็นระบบอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ชาติในระยะสั้น คือในยุทธศาสตร์ 20 ปีต้องมีระยะสั้น 5 ปี 10 ปี 20 ปี จะเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี เราจะมีแผนแม่บทซึ่งต้องคำนึงถึงความต่อเนื่อง ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อช่วยเสริม ลดภาระการทำงานของคน อยากบอกว่าวันนี้บรรยากาศต่างจากบรรยากาศการทำงานเมื่อสองวันที่ผ่านมา เหมือนมาอีกโลกใบหนึ่ง เรามีโลกอยู่สองใบเสมอไม่ว่าจะคนหรือพื้นที่ ทำอย่างไรที่เราจะเพิ่มขีดความสามารถในการทำสิ่งเหล่านี้ได้ อยู่ตรงนี้เหมือนเรามี เราพร้อม เราสะดวก แต่ก็ยังมีคนที่แตกต่างเหลื่อมล้ำ ทำอย่างไรที่จะทำให้ดิจิทัลมาช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคนที่มีรายได้น้อย เช่น ที่เราทำเรื่องการค้าขายออนไลน์ เราต้องทำเพื่อธุรกิจและเพื่อสังคมโลก เราต้องสร้างความเชื่อมโยง เจริญและแข็งแกร่งไปพร้อมกับทั่วโลก เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อีกเรื่องที่สำคัญคือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทั่วโลกให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเรื่องสิทธิมนุษยชน โลกก็ต้องการไม่ให้กระทบสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ใช้ดิจิทัลในทางที่ผิด แม้เราจะมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่คำว่าผิดกฎหมายกับคำว่าสิทธิมนุษยชนมันอยู่บนเส้นเดียวกัน อยู่ที่วิธีปฏิบัติว่าทำอย่างไร ไม่ให้ก้าวล่วงซึ่งกันและกัน ดังนั้น คนต้องไม่ทำความผิด เมื่อทำความผิดก็ต้องยอมรับความผิด ไม่ใช่บอกว่าทำเพราะไม่รู้ ไม่รู้เลยไม่ต้องลงโทษ ส่วนคนที่รู้แต่ทำเพราะถูกรังแก แบบนี้ประเทศชาติก็หาความสงบสุขไม่ได้ เป็นกันทั้งโลก ไม่ใช่ไทยแค่ประเทศเดียว เท่าที่เจอผู้นำหลายประเทศ ทุกคนพูดแบบเดียวกันหมด ดังนั้น ต้องบูรณาการร่วมกันยับยั้งเหตุที่จะเกิดให้ได้ ความหลอกลวงทางโซเชียลมีเดียยังมีอยู่ตลอด จับกุมกันต่อเนื่อง รัฐบาลนี้จริงจังสามารถจับพวกฉ้อโกงมาลงโทษได้จำนวนมาก และเป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้เป็นประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีหน้า เราต้องใช้โอกาสนี้ในการเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลร่วมกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนในเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงความร่วมมือกับนานาอารายะประเทศทั่วโลก

“ในโลกนี้ไม่มีอะไรดีไปทั้งหมด ต้องมีเสีย อยู่ที่เราจะเลือกอยู่ตรงจุดไหน เมื่อเช้าผมดูอะไรสักอย่างเขาบอกว่ามนุษย์เรามีหมาป่าอยู่สองตัวในตัวเรา ตัวหนึ่งใจดี อีกตัวหนึ่งดุร้าย ขี้โกง เราจะเลือกให้หมาป่าตัวไหนชนะ อยู่ที่เราจะป้อนอาหารให้มันกิน ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์ คดโกง ทำอะไรก็หวังผลประโยชน์ หมาป่าตัวร้ายก็จะมีน้ำหนักมากกว่า ผมอ่านแล้วก็มาคิดว่าตัวเองมีหมาป่าอยู่กี่ตัว หมาป่าใจดีหรือหมาป่าใจร้าย มันไม่ใช่ใจดีใจร้ายหรอก ทุกอย่างต้องรักษากฎระเบียบ ความจริงใจ ใครจะเห็นไม่เห็นช่างเขาเถอะ เรารู้ตัวของเราเองดีอยู่แล้ว เช่นเดียวกันการใช้ดิจิทัลมีทั้งประโยชน์และโทษ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ตนพูดอยากให้ทุกคนได้คิด อย่าให้ทุกอย่างยึดครองโลกส่วนตัวไปหมด ใช้ได้แต่อย่าถูกครอบครอง คนเราต้องมีหลักการในการดำรงชีวิต สิ่งสำคัญคือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ต้องสร้างคน ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่รัฐบาลจัดสรรให้ วันนี้เราสร้างการรับรู้เท่าทันเทคโนโลยีให้กับประชาชน ขอให้เยาวชนรุ่นใหม่ใช้ดิจิทัลอย่างมีสติ หลักเกณฑ์หลักการกฎหมาย อย่าบอกว่าไม่รู้ พอทำผิดแล้วบอกไม่รู้กฎหมาย ไม่รู้ว่ามีความผิด ชอบอ้างกันแบบนี้ตลอด ตัวเองก็รู้อยู่ดีว่าทำอะไรผิด อะไรถูก วันหน้าขอให้ใช้ดิจิทัลมาเสริม เวลานายกฯ มา ไม่ต้องพูด ยืนเฉยๆ บางทีพูดเยอะเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน คนไม่ค่อยชอบ สองวันพูดตั้งแต่เช้ายันหกโมงเย็น สองวันเต็มๆ คือพูดเกือบทุกวัน แต่อยากให้ทุกคนจับสาระที่นายกฯ พูดให้ได้ อยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร เพื่อนบ้านเป็นอย่างไร อยากให้เพื่อนในโลกใบนี้เป็นอย่างไร เราทุกคนต้องซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน เราไม่ใช่คู่แข่งขันกัน เราเป็นมนุษยชาติอยู่โลกใบเดียวกัน ใครเจริญเติบโตมาก ความขัดแย้งก็สูง ดังนั้น ดิจิทัลจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างโลก ระหว่างเรา ระหว่างคนมีสตางค์กับคนไม่มีสตางค์ ทำอย่างไรให้ทุกคนเข้าถึง ฝากให้ทุกหน่วยงานช่วยคิดต่อเพราะเป็นการทำงานที่เรียกว่าประชารัฐ

จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ฝากคนไทยเรียนรู้เรื่องของดิจิทัล เพราะต้องอยู่ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นนอกจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ต้องสอนคนของเราเข้าถึงการใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะการสร้างอาชีพใหม่เพื่อเพิ่มรายได้ สร้างการเรียนรู้หลักคิดที่ถูกต้อง โดย พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะพูดเรื่องการเมือง กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “การเมืองไม่เอาแล้วนะ”