'อภิสิทธิ์' รอลุ้นคสช.คลายล็อกการเมืองเเค่ไหน

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2561 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ประกาศใช้แล้วว่า จะทำให้ตารางเวลาเกี่ยวกับเรื่องของการทำงานของพรรคการเมืองและการเลือกตั้งมีความชัดเจนขึ้น เพราะเมื่อประกาศใช้กฎหมายเลือกตั้ง ก็จะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน แล้วก็หลังจากนั้นไม่เกิน 150 วันตามรัฐธรรมนูญก็จะต้องมีการเลือกตั้ง คสช.และรัฐบาลได้พูดเอาไว้ว่า เมื่อมีการประกาศใช้กฎหมาย จะมีการคลายล็อก ความหมายคือ คงยังไม่ยกเลิกคำสั่งที่ห้ามทำกิจกรรมทั้งหลาย แต่ว่าจะผ่อนคลายเพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองทำบางสิ่งบางอย่างได้ เพราะต้องทำให้พรรคการเมืองปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองได้ สำคัญที่สุดคือการประชุมใหญ่เพื่อสามารถที่จะแก้ข้อบังคับของพรรคให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ได้ เพราะกฎหมายใหม่จะมีบทบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องสมาชิกพรรค การตั้งสาขาพรรค รวมถึงการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ทั้งหมดนี้ต้องทำให้เสร็จภายใน 90 วันอยู่แล้ว นับจากวันที่คลายล็อก

“ดังนั้นสิ่งที่ผมเตรียมการไว้คือ 90 วันนี้ พรรคต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้เสร็จ ก็เรียนให้ทราบเลยว่า หลักๆ ข้อบังคับซึ่งจะต้องมีการเขียนเรื่องอุดมการณ์ เรื่องนโยบายเข้าไปด้วย ขณะนี้ได้มีการร่างเอาไว้เพื่อที่จะเสนอคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ และนโยบาย เบื้องต้นจะออกมานี้ ค่อนข้างจะเป็นฉบับย่อ เพราะเราคิดว่าก่อนถึงการเลือกตั้ง และโดยเฉพาะเมื่อมีคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้ว ก็จะทำนโยบายอีกชุดหนึ่ง ซึ่งจะปรับเข้าสู่สถานการณ์ของการเลือกตั้ง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเมื่อคลายล็อกแล้ว พรรคจะรีบเดินหน้าเพื่อแก้ไขข้อบังคับและการนำไปสู่การเปิดรับสมาชิกและการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งขณะนี้ได้ร่างระเบียบข้อบังคับไว้แล้ว แต่ต้องผ่านที่ประชุมใหญ่ก่อน เพราะฉะนั้น คงต้องใช้เวลา 7- 10 วัน หลังคลายล็อก ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอยากให้เสร็จภายในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะได้เริ่มทำงาน เตรียมการเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่มีความกังวลหลังมีชื่อสมาชิกพรรคหลายคนเตรียมลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค การที่พรรคเปิดกว้างเพราะต้องการให้มีคนเข้ามาแข่งขัน เป็นกระบวนการประชาธิปไตย ต้องเปิดโอกาสให้คนที่สนใจ ซึ่งอาจจะมีหลายคน ส่วนที่ใช้ระบบแอปพลิเคชั่นเข้ามาช่วยนั้น ขณะนี้เตรียมการอยู่ ต้องพยายามขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปรับระเบียบหลายอย่าง

“ส่วนตัวหากได้หรือไม่ได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ยืนยันว่าจะยังทำงานและสนับสนุนคนในพรรคต่อ ยืนยันว่าการทำแบบนี้ ผมต้องการให้เกิดรูปธรรมในการปฏิรูปพรรค ต้องการเป็นแบบอย่างพรรคการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย ส่วนผลตัดสินขึ้นอยู่กับสมาชิก”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคคนใหม่ควรจะต้องเป็นคนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ ที่จะต้องมาสู้ศึกเลือกตั้งในสถานการณ์แบบนี้นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าเป็นใครก็ได้ที่จะอาสาตัวเข้ามาหรือเป็นบุคคลที่มีสมาชิกสนับสนุน ซึ่งย้ำกับสมาชิกว่า วันนี้ต้องช่วยกันทำให้กระบวนการนี้เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นการแข่งขั้นที่สร้างสรรค์ เมื่อจบลงแล้วต้องมาทำงานร่วมกันได้ ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง และเป็นธรรมดาเมื่อสมาชิกที่อยากกลับเข้ามาในพรรค จะต้องมีเกณฑ์ที่สูงกว่าธรรมดา ในการเสนอชื่อหรือได้รับการรับรอง ซึ่งคิดว่าไม่น่าเป็นอุปสรรค์สำหรับคนที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค