ดาวโจนส์ปิดไร้ทิศทางหลังเจรจานาฟต้าล่ม
ส่วนนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะตอบโต้สหรัฐอย่างสาสม ถ้าหากปธน.ทรัมป์กลับคำสัญญาที่ระบุว่าจะไม่เรียกเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (31ส.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวร่วงลง สวนทางกับดัชนีเอสแอนด์พี500 และดัชนีแนสแด็ก โดยตัวแทนเจรจาการค้าของแคนาดายอมรับว่ายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) ฉบับใหม่กับสหรัฐในวันนี้ ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในการเจรจา
ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 22.1 จุดหรือ 0.09% ปิดที่ 25,964.82 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 0.39 จุดหรือ 0.01% ปิดที่ 2,901.52 จุด และดัชนีแนสแด็ก บวก 21.17 จุดหรือ 0.26% ปิดที่ 8,109.54 จุด
นางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของแคนาดา กล่าวว่า แคนาดายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงนาฟต้าฉบับใหม่กับสหรัฐ ซึ่งคำกล่าวของนางฟรีแลนด์ มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า จะไม่ประนีประนอมในการเจรจาการค้ากับแคนาดา
ด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ยังคงปฏิเสธที่จะผ่อนปรนเงื่อนไขของสหรัฐ แม้ว่านางฟรีแลนด์ เสนอที่จะประนีประนอมในการรักษากลไกการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าอย่างอิสระภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่
สหรัฐและแคนาดายังคงไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการเจรจาเป็นวันที่ 3 แม้ว่าทั้งสองฝ่ายใช้เวลาเจรจากันนานหลายชั่วโมง
ด้านนายจอร์จ เอี๋ยว อดีตรัฐมนตรีการค้าของสิงคโปร์ กล่าวว่า การทำสงครามการค้าที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีนอาจนำไปสู่การเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลก
ขณะที่สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์เตรียมเดินหน้าตามแผนเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ในสัปดาห์หน้าวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐ