ยันพม.ไม่ได้ปฎิเสธ ‘น้องแบม’ แต่บรรจุขรก. ต้องเท่าเทียมทุกคน

ยันพม.ไม่ได้ปฎิเสธ ‘น้องแบม’ แต่บรรจุขรก. ต้องเท่าเทียมทุกคน

“รมว.พม.” ยันไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้ปฎิเสธ “น้องแบม” ชี้ทำดีมีรางวัลเชิดชู แต่ต้องดูระเบียบราชการด้วย-เท่าเทียมทุกคน

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ (กยค.) ถึงกรณีที่น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม ระบุว่ายังไม่ได้เข้าทำงานหลังเรียนจบตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงฯดูแล ว่า ขอชี้แจงว่าตั้งแต่เกิดเหตุเรื่องการเปิดเผยข้อมูลทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ในศูนย์ จ.ขอนแก่น ทางกระทรวงไม่ได้นิ่งเฉย มีการสืบสวนเพื่อให้การทำงานของข้าราชการ พม. มีความโปร่งใส แต่ในส่วนกรณีน้องแบม ทางกระทรวงได้พยายามติดต่อไปตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการร้องเรียน ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ยังไม่ให้พูดคุย เพราะเกรงว่าอาจจะทำให้ข้อมูลในการตรวจสอบคลาดเคลื่อน แต่เมื่อทำการสอบสวนเรื่องทุจริตไปได้ระยะหนึ่ง จึงได้พบและพูดคุยกับน.ส.ปณิดา เป็นครั้งแรกในงานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพม.ดูแล โดยมีนางไพรวรรณ พลวัน รองปลัดกระทรวงฯเป็นผู้ประสานงานดูแล มีการโทรศัพท์พูดคุยติดต่อกันมาตลอด ดังนั้นจะกล่าวหาว่าไม่ดูแลไม่ได้ และเรื่องการทำงานนั้นน.ส.ปณิดา ไม่ได้แจ้งว่าเรียนจบเมื่อใดและไม่ได้แสดงความจำนงว่าต้องการจะเข้าทำงานที่กระทรวงพม. จนเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้โทรศัพท์ติดต่อมาโดยระบุว่าต้องการทำงานเท่านั้น

พล.อ.อนันพร กล่าวว่า ตามหลักเกณฑ์การรับบรรจุเป็นข้าราชการของกระทรวง เป็นไปตามระเบียบสำนักงานข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ไม่สามารถบรรจุได้ทันที ต้องมีการสอบ หากไม่สอบแต่ใช้วิธีพิเศษต้องตกลงกับกพ.ก่อน เช่น เดียวกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ก็มีหลักเกณฑ์เดียวกัน ต้องมีการสอบก่อน แต่ขณะนี้เป็นช่วงปลายปีงบประมาณแล้ว ส่วนใหญ่จะรอต้นปีงบประมาณใหม่ หรือมีตำแหน่งว่าง หรือบรรจุเป็นลูกจ้างไปก่อนซึ่งสามารถทำได้ในช่วงเดือนต.ค.นี้ กรณีดังกล่าวตนเข้าใจดีถึงความคาดหมายของคนที่เข้าใจว่าจะเข้าบรรจุได้เลย แต่กับระเบียบราชการบางครั้งก็ไปกันไม่ได้ เพราะระเบียบราชการทุกกรมไม่สามารถเข้าได้ทันทีต้องมีขั้นตอน

“เรื่องนี้ไม่ใช่ความคลาดเคลื่อนของการสื่อสาร และรองปลัดพม.ซึ่งเป็นคนพูดจาไพเราะได้คุยกับน.ส.ปณิดา ในฐานะผู้ประสานงานหลัก แต่เนื้อความอาจจะไม่ถูกใจว่าทำไมไม่รับเลย แม้แต่ผมยังไม่มีอำนาจบรรจุใครเลย ต้องให้กพ.ตัดสินว่ากรณีที่ไม่สอบ กพ.จะให้บรรจุหรือไม่ หากน้องแบมแสดงเจตนารมย์หรือมาสมัครในตำแหน่งที่ต้องการบรรจุ แล้วกพ.เห็นชอบก็ทำได้ ส่วนที่ป.ป.ท.ระบุว่าจะรับและใช้วิธีพิเศษสำหรับบุคลที่ทำความดีและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ยังต้องตกลงกับกพ.ตามหลักเกณฑ์เหมือนกัน ไม่เช่นนั้นหน่วยราชการก็คิดเองได้ว่าคนนี้พิเศษเข้าได้ ทำไม่ได้หรอกอย่างไรก็ไม่ได้ เพราะทั้งหมดเป็นขั้นตอนต้องปฎิบัติ แต่เขาคาดหวังว่าจะได้บรรจุเลย ซึ่งกติกาไม่มีและการทำดีคือให้รางวัลมีประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ แต่การบรรจุเป็นข้าราชการมีระเบียบกพ.เขียนชัดต้องมีระบบคุณธรรมให้ความเท่าเทียมทุกคน ยกเว้นมีกรณีพิเศษให้ตกลงกับกพ.เป็นกรณีไปและมีอัตราว่างด้วย ” รมว.พม.กล่าว

พล.อ.อนันตร กล่าวว่า เงื่อนไขของน้องแบมต้องการบรรจุที่จ.ขอนแก่น ซึ่งศูนย์ของพม.อัตราเต็มและทั้งศูนย์มีข้าราชการเพียง 2 คน ซึ่งเงื่อนไขของเขาไม่ตรงกับพม.ซึ่งก็มีอัตราน้อยมาก ถ้าต้องการจริงอย่างนั้นกพ.ออกอัตราเพิ่มที่จ.ขอนแก่นได้หรือไม่ เรื่งเหล่านี้ต้องมีการคุยกับ กพ. แต่ถ้าจะต้องย้ายคนที่อยู่เดิมออกไปเพื่อ ให้น้องแบมบรรจุ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ลำบาก เราต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย บางอย่างเลือกไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และส่วนราชการก็ให้ตามที่พึงมีพึงได้ ยืนยันว่าเราให้ความเป็นธรรมและขอบคุณน้องแบม ที่ให้ข้อมูลมาดำเนินคดี จึงมีรางวัลให้ พร้อมกันนี้ยืนยันว่าพม.ไม่ได้รังเกียจ ไม่ได้ปฎิเสธทั้งสิ้น แต่ต้องดูระเบียบราชการด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางแก้ปัญหาควรเป็นอย่างไร พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า น้องแบมต้องมายื่นใบสมัครแสดงเจตนารมย์ก่อนว่าอยากทำงาน ถ้าไม่สมัครก็ต้องรอก่อนแต่เรารับทราบ จากนั้นหน่วยงานจะพิจารณาว่ามีตำแหน่งใดที่ตรงกับวุฒิการศึกษา และความดีที่ทำ หากจะลัดขั้นตอนแล้วกพ.เห็นด้วยก็บรรจุ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ต้องสอบภาคก.ตามขั้นตอน การทำความดีมีการชมเชยแต่การจะบรรจุเป็นข้าราชการไม่ได้อยู่ในเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับส่วนราชการพิจารณา หรือมติครม.ที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

รองปลัดพม. กล่าวว่า หลังจากที่เป็นข่าวได้พูดคุยกับน.ส.ปณิดา ให้ทางเลือกว่าหากจะรับราชการที่พม.จะมีอัตราจ้างเหมา ซึ่งน.ส.ปณิดา ตอบว่าสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อไปแล้วให้ทำงานที่ป.ป.ท.ซึ่งเขาก็ยืนยันว่าจะไปทำงานที่ป.ป.ท. ก็ถือว่าจบแล้ว