นายกฯ ปัดลงพื้นที่แจกเงิน ย้ำประชารัฐประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

นายกฯ ปัดลงพื้นที่แจกเงิน ย้ำประชารัฐประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

นายกรัฐมนตรี ปัดลงพื้นที่แจกเงิน ย้ำประชารัฐประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด อัดพวกจ้องบิดเบือนผ่านโซเชียล

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการศษสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ตามที่สำนักพระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการประชวรไข้หวัดใหญ่ คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถมาระยะหนึ่งแล้ว พระอาการโดยรวมดีขึ้น แต่คณะแพทย์ขอพระราชทานให้ประทับที่โรงพยาบาล เพื่อถวายการฟื้นฟูพระวรกายต่อไป นั้น ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทุกคน ร่วมใจกัน ถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระองค์ ทรงหายจากพระอาการประชวรและขอทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงโดยเร็ว ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

พร้อมกันนี้ นายกฯยังได้กล่าวถึง “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” 18 ส.ค. รำลึกพระปรีชาสามารถ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” ทรงพิสูจน์การคำนวณสถานที่และเวลาการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ณ หมู่บ้านหว้า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่นับเป็นจุดเริ่มต้นและสัญลักษณ์ของวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ของไทย รัฐบาลโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 16-26 ส.ค. ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย และเผยแพร่ผลงานการวิจัย ความก้าวหน้า กระตุ้นความสนใจ ให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คฮอล์ล 2 ถึง 8 เมืองทองธานี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจ ชื่นใจ ที่เห็นรอยยิ้มของประชาชน ในการนำคณะไปประชุมคณะรัฐมนตรี ที่จังหวัดชุมพร และ ระนอง แม้จังหวัดระนอง จะเป็นจังหวัดเล็กๆ มี ส.ส. เพียงคนเดียว ยืนยัน ทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเล็ก จะใหญ่ มีความสำคัญทั้งหมด เพราะว่ารัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ และเชื่อว่าการเดินทางมาครั้งนี้ จะช่วย เติมเต็ม ซึ่งกันและกัน จากจังหวัดไปกลุ่มจังหวัด และประเทศ เชื่อมโยง เกื้อกูล สอดคล้องกัน นั่นคือเศรษฐกิจของประเทศไทย

ทั้งนี้ นายกฯย้ำว่า ระนอง – ชุมพร เป็นประตู สู่ภาคใต้ตอนล่างของไทย เชื่อมโยงสองฝั่ง อ่าวไทยกับอันดามัน สำคัญต่อยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนของประเทศ ซึ่งในอีก 10-15 ปีข้างหน้า ประเทศในเอเชียใต้ และเอเชียตะวันตก จะมีความสำคัญมากขึ้นไม่แพ้กัน ทำให้มีความต้องการสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น จึงเป็นอีกโอกาส ที่จะสามารถขยายตลาด และกระจายคู่ค้าออกไปได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น จึงต้องเตรียมพร้อมให้ จ.ระนอง พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการค้า โลจิสติกส์ ชายฝั่งอันดามัน รวมถึงเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยต่อไปส่วนชุมพร ก็จะมุ่งเน้นการพัฒนาการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย และสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรกรรมและบริโภคได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ ทุกครั้ง ทั้งการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือการตรวจเยี่ยมต่างๆ ไม่ใช่เพื่อแจกเงิน หรือแจกงบประมาณ อย่างที่หลายคนกล่าวอ้างกัน ไม่ทำเช่นนั้น

นายกฯ กล่าวต่ออีกว่า มีหลายเรื่อง ที่ติดตามจากโซเชียลมีเดีย จากสื่อ มีกลุ่มผู้ไม่หวังดี อาจจะกลุ่มการเมือง สื่อที่ อาจจะเจตนาไม่บริสุทธิ์ บิดเบือนว่ารัฐบาลนี้ไม่เคยทำอะไรให้เลย 4 ปี ทีผ่านมาทุกอย่างเริ่มตั้งแต่รัฐบาลก่อนๆหมด ถ้าติแบบนี้ ทั้งหมด แล้วตนเองอ้างบ้างว่ารัฐบาลก่อนสร้างปัญหาอะไรไว้ จะฟังไหม ก็อยากจะให้สื่อสารไปถึงประชาชนด้วย แต่ก็กังวลกับประชาชนที่มีความเดือดร้อนโดยที่ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไร เพราะคนบางคนกำลังบิดเบือน ก็ขอให้ทำความเข้าใจด้วย ฝากส่วนราชการต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ด้วยรวบรวมสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำ ทั้งของเดิม ของใหม่ แก้ไขปัญหา ความขัดแย้ง ดังนั้นต้องมอง 2 ทาง ต้องการอะไรให้มันดีขึ้น ต้องการความปลอดภัยให้มากขึ้น เพราะฉะนั้นจึงต้องทำงานร่วมกันที่เรียกว่าประชารัฐ