GLOBAL - ซื้อ

สูงกว่าที่ประเมิน 17 %

GLOBAL รายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/61 ที่ 574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% YoY และ 1% QoQ สูงกว่าตลาดและเราประเมินไว้ 13% และ 17% ตามลำดับ เนื่องจากยอดขายสาขาเดิมและอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวมากกว่าที่คาดไว้

ประเด็นหลักผลประกอบการ

ยอดขายขยายตัว 23% YoY มาอยู่ที่ 6,400 ล้านบาท หนุนโดยยอดขายสาขาเดิมที่เติบโตถึง 11.6% (จากฐานที่ต่ำ และราคาเหล็กที่สูงขึ้น) และการขยายสาขาเชิงรุก โดย GLOBAL เปิดสาขาใหม่ 2 สาขา ในไตรมาส2/61 และ วางแผนจะเปิดอีก 6 สาขาในครึ่งหลังปี 2561 ซึ่งจะทำให้มีสาขาทั้งหมด 63 สาขาภายในสิ้นปี 2561

อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 21.5% ในไตรมาส 2/61 จาก 21.2% ในไตรมาส 2/60 หนุนโดยการเพิ่มของราคาเหล็กที่มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และสัดส่วนรายได้ของ House brands ที่เพิ่มขึ้น (13.5% ในไตรมาส 2/61 เทียบกับ 13.2% ในไตรมาส 2/60) อย่างไรก็ตามเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงมาในระดับปกติอยู่ที่ 20.5-21 % ครึ่งหลังปี 2561 เนื่องจากกำไรจากราคาเหล็กที่สูงขึ้นไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง

รายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 34% YoY มาอยู่ที่ 245 ล้านบาท ในไตรมาส 2/61 หนุนโดยรายได้จากการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายและค่าธรรมเนียมศูนย์กระจายสินค้า (DC)

อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 13.2% ในไตรมาส2/61 จาก 13.6 ในไตรมาส 2/60 เนื่องจากการประหยัดต่อขนาดตามการฟื้นตัวของยอดขายที่แข็งแกร่ง

แนวโน้ม

โดยปกติแล้วไตรมาส 3 เป็นไตรมาสที่มีกำไรน้อยที่สุดในรอบปี สำหรับ GLOBAL เนื่องจากอุปสงค์วัสดุก่อสร้างลดลงในช่วงฤดูฝน อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรของ GLOBAL จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2561 เพราะผลกระทบจากฐานต่ำ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราเพิ่มการประมาณการกำไรปี 2561 ขึ้น 7% เพื่อสะท้อนผลประกอบการไตรมาส 2/61 ที่ดีกว่าคาด รวมถึงโมเมนตัมยอดขายที่น่าจะแข็งแกร่งได้ต่อเนื่อง เราปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 61 เพิ่มขึ้นเป็น 19.80 บาท จาก 18.50 บาท

คำแนะนำ

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” GLOBAL เราเชื่อว่าเป็นหุ้นที่น่าเล่นที่สุดจากการฟื้นตัวของการบริโภคในต่างจังหวัดในปลายไตรมาส 4/61