เอ็นจีโอต่างชาติเกาะติดคดีบิลลี่ หลังหายตัว4ปีไม่คืบหน้า

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) -26 ก.ค.61 นายคิงสลีย์ แอ๊บบอต ที่ปรึกษากฎหมายอาวุโส โครงการเอเชีย-แปซิฟิค คณะกรรมการนิติศาสตร์สากล หรือ ไอซีเจ (International Commission of Jurists) เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร. รองอธิบดีดีเอสไอ เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของนาย พอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเหตุเกิดมาตั้งแต่เดือนเม.ย.57 โดยคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)มีมติรับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 61 หลังเกิดเหตุนานกว่า 4 ปี

พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า เบื้องต้นไอซีเจได้แสดงความพอใจที่ดีเอสไอได้รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ พร้อมกับสอบถามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการช่วยเหลือและการดำเนินคดี ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน จากกรณีการหายตัวไปของบิลลี่ที่ตอนนี้กินเวลานานกว่า 4 ปีแล้ว คดีนี้ดีเอสไอได้มอบหมายให้กองคดีปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ รับไปดำเนินการเร่งรัดสืบสวนสอบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยไม่มีกรอบระยะเวลาของการทำงาน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ลงพื้นที่สืบสวนคดีไปบ้างแล้ว และการรับเป็นคดีพิเศษคดีในครั้งนี้ก็จะใช้ฐานข้อมูลเดิมเป็นแนวทางในการสอบสวน

ด้านนายคิงสลีย์ กล่าวว่า ไอซีเจ ได้ติดตามคดีนี้มาโดยตลอดนับตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อปี 2557 ช่วงแรกค่อนข้างมีความกังวลหลังพบว่าคดีไม่มีความคืบหน้า ที่ผ่านมาได้เดินหน้าเรียกร้องให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ พร้อมมองว่าการที่ดีเอสไอรับเรื่องเป็นคดีพิเศษถือเป็นก้าวสำคัญในการที่จะไขความกระจ่างคดีนี้. หวังว่าดีเอสไอจะเดินหน้านำความจริงและความยุติธรรมกลับคืนสู่ครอบครัวบิลลี่ โดยสอบสวนตามหลักกฎหมายสากลระหว่างประเทศ เป็นกลาง อิสระ ปราศจากการแทรกแซงรวมเพื่อจะนำตัวคนกระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
นายคิงสลีย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ให้ความสนใจในคดีนี้ เพราะถือเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เพราะคนที่หายตัวไปเป็นกะเหรี่ยง และเป็นนักเคลื่อนไหวเรื่องที่ดิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความน่าสงสัยในหลายประเด็น โดยเฉพาะสิ่งที่ครอบครัวบิลลี่ตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกับการหายตัว ซึ่งอาจเข้าข่ายการบังคับให้สูญหาย. จึงอยากจะเห็นความคืบหน้าในการทำคดีนี้โดยเร็ว