เปิดใจ 13 หมูป่าติดถ้ำหลวง เผย 4 คนอยากเป็น 'ซีล'

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.61 จังหวัดเชียงรายแถลงข่าวทีมหมูป่ากลับบ้าน นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ระบุภาพเล่นฟุตบอลก่อนแถลงข่าว เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าทีมหมูป่าสุขภาพดี พวกเขามีความเข้มแข็งภายในที่จะเดินต่อไป ทั้งนี้ ผลเลือดที่ส่งตรวจ ยืนยันไม่มีโรคอุบัติใหม่ น้ำหนักตัวเฉลี่ยขึ้นมา 3 กก.ทุกคน ยืนยันกำลังกาย กำลังใจน้องๆแข็งแรง

พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ ผู้บังคับการกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ซึ่งเป็นแพทย์ทหารที่เข้าไปดูแล "ทีมหมูป่า" ภายในถ้ำหลวง เล่าว่า เวลาอยู่ในถ้ำเมื่อได้อาหารสัก 3-4 มื้อ ทำให้น้องๆคุยกันมากขึ้น เริ่มพูดคุยเรื่องกินกันมากขึ้น มีเมนูแปลกๆ แนะนำ "ใส้อั่วงู" และได้มีการพูดคุยกันว่าปิดเทอมนี้จะมาเที่ยวค่ายที่โคราช  

เมื่อถามว่าใครชวนเข้าถ้ำ น้องๆ อยากไปเที่ยวถ้ำหลวง ก็เลยไปวางแผนไปเตะบอลอุ่นเครื่องกัน หลังจากอุ่นเครื่องเสร็จก็ไปเที่ยวถ้ำกัน เพราะทุกคนอยากไป น้องๆ บางคนยังไม่เคยไปเลยอยากเห็น โค้ช-น้องๆ บางคน เคยไปถึงจุดเนินนมสาว ซึ่งครั้งแรกไปเจอตรงจุดสามแยกมีน้ำนิดๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ซึ่งโค้ชให้เวลา 1 ชม. ในการเข้าไป แผนคือเข้าไปแล้วกลับออกมา ซึ่งน้องไอซ์มีพ่อ-แม่จัดงานวันเกิดอยูที่บ้าน ซึ่งเมื่อเข้าไปถึงจุดเมืองลับแล เจอน้ำท่วมอยู่ ทั้งหมดตกลงกันว่าจะไปกันต่อโดยว่ายน้ำไป ซึ่งมีน้องบ้างคนว่ายน้ำไม่เป็น แต่ส่วนใหญ่ว่ายน้ำกันได้ ระหว่างน้องตี๋ว่ายไป ก็เช็คระดับน้ำอยู่ ซึ่งก็ไม่ลึก ทั้งหมดเลยไปต่อ ซึ่งไปถึงจุดเป็นเนิน และจุดที่ไปต่อมีน้ำ ก็เลยตกลงกันว่า จะถอยทัพก่อนเพราะหมดเวลาแล้ว ซึ่งก็ว่ายน้ำกลับมาตามปรกติ ซึ่งตรงจุด 3 แยกน้ำท่วมแล้ว โค้ชเอกจึงจะขอไปสำรวจดู โดยถือเชือกไปด้วยตกลงกับน้องๆ ว่า ถ้ากระตุกเชือก 2 ครั้งแสดงว่าไปไม่ได้แล้ว ซึ่งไปแล้วก็พบว่า ไปไม่ได้ จึงกระตุกเชือกให้น้องๆดึงกลับ ตอนนั้นเวลาประมาณ 5 โมง ก็เริ่มขุดหาทางออก ซึ่งน้องตี๋เสนอให้ไปหาที่นอนกันก่อน เนื่องจากมันเริ่มเย็นมากแล้ว

โค้ชเชื่อว่า คงเป็นปรากฏการณ์น้ำขึ้น-ลงปรกติ จึงเตรียมค้างคืนแทน จึงถอยเข้าไปในถ้ำ เพื่อหาจุดพักนอน ไปเจอเนินทราย ซึ่งมึน้ำหยดลงมา จึงเลือกพักตรงจุดนั้น ยืนยันไม่มีอาหารเข้าไปด้วย ก่อนนอนก็มีการสวดมนต์กันด้วย ซึ่งมีการหาแหล่งน้ำกินในถ้ำ จะเป็นน้ำจากหินย้อย รสชาติเหมือนน้ำเปล่าปกติทั่วไป

น้องๆ ยืนยันกินน้ำกันอย่างเดียว โดยวันแรกยังไม่รู้สึกว่าเป็นอะไรมาก แต่ก็วันหลักๆ เริ่มรู้สึกอ่อนแรง มีอาการหน้ามืดบ้าง ไม่มีแรง หิว พอหิวมากๆ ก็ไม่คิดถึงกับข้าว เพราะกลัวหิวกว่าเดิม คิดถึงข้าวผัด น้ำพริกอ่อง ด้วย ก็อาศัยกินน้ำให้อิ่ม ว่างๆ ก็ไปขุดผนังถ้ำ โดยใช้ก้อนหิน ก็ขุดกันไปได้ 3-4 ม. ในการขุดนั้นเริ่มต้นกันช่วงวันที่ 4-5 แล้ว ซึ่งเคยมีน้อง 2 คนที่เคยมาแล้ว พอทราบว่า ปลายทางนั้นอาจจะมีทางออก แต่ก็ตกลงกันว่าจะเอายังไงดี

ซึ่งจุดที่เนินนมสาวเป็นจุดหลัก ระหว่างนั้นเริ่มเจอน้ำไหลมา จึงขึ้นที่สูงที่สุดตรงเนินนมสาว โค้ชบอกว่าไม่ได้ยินเสียงฝนตก ได้ยินแค่เสียงน้ำไหลมา ซึ่งไม่สามารถไปไหนต่อได้ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ก็เลยตัดสินใจขุดหาทางออก

เมื่อถามถึง ความทรงจำเกี่ยวกับพี่ๆ หน่วยซีลในถ้ำหลวง โค้ชเอก ตอบว่าผูกพันธ์เหมือนครอบครัวเกียวกัน กิน นอนด้วยกัน น้องเรียก พี่ใบเตย(หน่วยซีล) เรียกว่าพ่อ เพราะพี่ใบเตยเรียกน้องว่าลูก หมอภาคย์ยืนยันว่า ทั้งหมดผูกพันธ์กันจริงๆ เพราะว่า ต้องดูแลกันทั้งหมด มองน้องๆ เหมือนลูก (ซีลท่านอื่นก็มีลูกด้วยเช่นกัน)

โค้ชเอก บอกว่าน้องๆ รู้สึกเสียใจในตัวจ่าแซม ที่ได้เสียสละตัวเองช่วยเหลือน้องๆ ทั้ง 13 คน ตอนที่น้องๆ รู้ว่า มีคนเสียสละชีวิตให้น้องๆ ครั้งแรก ก็ช็อค-เสียใจมาก เหมือนตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้พี่จ่าเสียชีวิต เสียใจที่ทำให้คนเดือดร้อน

บทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โค้ชเอก บอกว่า บทเรียนครั้งนี้ของตนเองคือ ซาบซึ้งในน้ำใจของทุกคนๆ ต่อไปจะใช้สติอย่างมีประโยชน์ ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า จะไม่ประมาท น้องตี๋บอกว่าได้เรียนรู้เรื่องอุทกภัยในครั้งนี้ ตั้งใจจะเป็นคนดีต่อไป น้องอดุลย์ คิดว่าการประมาทในชีวิต เป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดว่าจะเกิดอะไร สิ่งที่ไม่คิดในครั้งนี้เนี่ย ทำให้ได้บทเรียน จะใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากที่สุด ความฝันของน้องๆ ยังไม่เปลี่ยน ยังอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เหมือนเดิม เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ เข้มแข็งและอดทนมากขึ้น และอาจจะมีอาชีพเพิ่มขึ้นมาก็คือ "หน่วยซีล" เพราะอยากช่วยคน มีน้องๆ 4 คนอยากเป็นซีล น้องๆบอกไม่อยากไปถ้ำอีกแล้ว

เมื่อถามว่า ใครเป็นคนเลือกว่าใครจะออกมาจากถ้ำ โค้ชเอกตัดสินใจให้ชุดแรก เป็นบ้านเวียงหอม เพราะน้องๆ อยู่ไกลมากและน้องๆ จะปั่นจักรยานกลับ เพื่อไปบอกครอบครัวว่าว่า ไม่ต้องห่วง มีพี่หน่วยซีลอยู่เป็นเพื่อน และพรุ่งนี้จะออกไปให้เตรียมทำกับข้าวรอ ทางซีลก็ให้ออกตามนั้นเลย ซึ่งการคัดเลือกนั้นหมอภาคย์คุยกับ ดร.แฮรีส แล้วว่า ทุกคนแข็งแรงใกล้เคียงกันหมด ซึ่งดร.แฮริสก็เลยบอกว่า เอาใครออกก่อนก็ได้ และได้ให้โค้ชเอกตัดสินใจเลย

น้องๆ บอกขอโทษผู้ปกครอง ที่เข้าถ้ำแล้วไม่ได้บอก บอกแค่ว่าไปเตะบอลกัน ตอนที่ติดก็คิดว่าออกไปโดนพ่อถล่มแน่นอน น้องๆพร้อมจะบวชเพื่ออุทิศให้จ่าแซม

พญ.อัปษรศรี นักจิตวิทยา กล่าวว่า น้องเป็นเด็กดีมีเป้าหมายในชีวิต หมอบอกกันว่า คุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนลงแรงไปเมื่อกลับไปภายนอก อาจมีบางอย่างไปสกัดกั้นพัฒนาการ ให้เขาได้ใช้ชีวิตปกติ ไม่ต้องระแวงเวลาไปไหนมาไหน ซ้อมบอลได้ปกติ

เมื่อถามถึงน้องๆ 4 คนที่ยังไม่ได้สัญชาติไทย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าฯ เชียงราย ระบุหลังจากทีมหมูป่ากลับบ้านแล้ว นายอำเภอจะต้องรู้ ต้องรับทราบเรื่องราวต่างๆ และต้องประชุมหารือหาทางออกหากมีปัญหาเกิดขึ้น และต้องมีการรายงานสู่จังหวัด จนกว่าชีวิตของทีมหมูป่าทั้ง 13 คน จะคืนสู่สภาพปกติ