ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังทรุดหนัก

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังทรุดหนัก

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 143,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 7.47 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปรับตัวขึ้นในวงจำกัด ขณะนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันในการผลิตน้ำมัน และพุ่งความสนใจไปยังการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส  ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์  ปิดตลาดวันอังคาร (17ก.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 2 เซนต์ ปิดตลาดที่  68.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ ปิดตลาดที่ 72.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ทั้งนี้ บรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียเปิดเผยว่ามีการเปิดสถานีส่งออกน้ำมัน 4 แห่ง หลังจากที่ได้ถูกปิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้มีการส่งออกน้ำมันราว 850,000 บาร์เรล/วันเข้าสู่ตลาด

ขณะเดียวกัน รัสเซียและประเทศผู้ส่งออกน้ำมันบางรายอาจเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน หากตลาดประสบภาวะน้ำมันตึงตัว

นอกจากนี้ สหรัฐได้ประกาศผ่อนผันให้ประเทศต่างๆสามารถซื้อน้ำมันอิหร่านต่อไป แม้มีการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า ประเทศผู้นำเข้านำมันบางรายจะได้รับการผ่อนปรนให้สามารถซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ต่อไป ถึงแม้ว่าสหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

“เราต้องการให้ประเทศต่างๆลดการซื้อน้ำมันอิหร่านจนถึงระดับศูนย์ แต่ในบางกรณีหลายประเทศไม่สามารถทำเช่นนั้นในช่วงข้ามคืน เราจึงเสนอข้อยกเว้น” นายมนูชินกล่าว

นายมนูชินยังระบุว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ต้องการสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดน้ำมันโลก ขณะที่ทำการกดดันอิหร่านให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

ก่อนหน้านี้ สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ และบริษัทน้ำมัน ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร

ทั้งนี้ วันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่

ขณะนี้ อิหร่านผลิตน้ำมันราว 4.7 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก หรือเกือบ 5% ของปริมาณน้ำมันที่มีการผลิตทั่วโลก