คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดราคาทองฟิวเจอร์ร่วง

คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดราคาทองฟิวเจอร์ร่วง

ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดวันจันทร์ (16ก.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวลง จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในเดือนมิ.ย.

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 1.50 ดอลลาร์  ปิดตลาดที่ 1,239.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.แต่เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอพุ่งขึ้น 2.9% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนพ.ค.

หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนีซีพีไอพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน โดยสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนพ.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอ พื้นฐานดีดตัว 2.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนพ.ค.

นักลงทุนจับตาการกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในสัปดาห์นี้ โดยเขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันอังคาร และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น

อย่างไรก็ดี สื่อได้เผยแพร่แถลงการณ์ของนายพาวเวล ก่อนที่เขาจะแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้แล้ว โดยแถลงการณ์ของนายพาวเวลระบุว่า เฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ, ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน, การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายภายในประเทศ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ โดยเฟดคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ

เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยในช่วงปลายปี 2562 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะอยู่ในระดับซึ่งจะจำกัดการขยายตัวเล็กน้อย ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่เหนือระดับที่เป็นกลางในช่วงเวลาดังกล่าว

มุมมองของเฟดดังกล่าวสอดคล้องกับคำกล่าวของนายพาวเวลก่อนหน้านี้ที่ว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในสภาวะสดใส โดยมาตรการปรับลดอัตราภาษี และการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลจะช่วยหนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ต่อไปอีก 3 ปี

รายงานของนายพาวเวล ไม่ได้กล่าวถึงผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มากนัก เพียงแต่ระบุว่าความไม่แน่นอนต่อนโยบายการค้าสหรัฐเป็นปัจจัยสร้างความวิตกต่อตลาดการเงิน

นอกจากนี้ แถลงการณ์ของนายพาวเวลยังบ่งชี้ว่า เฟดไม่มีความกังวลมากนักเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงิน โดยระบุว่าตลาดพันธบัตรค่อนข้างมีเสถียรภาพ และแทบไม่มีแรงกดดันด้านสภาพคล่อง แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว ก็จะเพิ่มความเปราะบางต่อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับต่ำ