วิจัย เพิ่มค่า 'เปล้าตะวัน'

วิจัย เพิ่มค่า 'เปล้าตะวัน'

ผลของงานวิจัยสามารถเพิ่มมูลค่า "เปล้าตะวัน" จากสมุนไพรแผนโบราณขยับสู่ผลิตภัณฑ์เวชสำอางส่งขายตลาดต่างประเทศ

ผลของงานวิจัยสามารถเพิ่มมูลค่า “เปล้าตะวัน” จากสมุนไพรแผนโบราณขยับสู่ผลิตภัณฑ์เวชสำอางส่งขายตลาดต่างประเทศ ผ่านการศึกษาและทดสอบจากนักวิจัยในสถาบันต่างๆ ทั้งคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และ มหาวิทยาลัยรังสิต

สมุนไพรเปล้าตะวันหรือเปล้าแดง พืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดใน จ.ตราด อยู่ในตระกูลเดียวกับเปล้าน้อย มีสารสำคัญคือ โปรโนทอล มีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมการปลูกพื้นที่ 100 ไร่เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณ

พร้อมทั้งส่งให้นักวิจัยในสถาบันต่างๆ สกัดสารสำคัญออกมาศึกษาวิเคราะห์และทดสอบบนหลักการทางวิทยาศาสตร์ ผลการศึกษาได้ค้นพบว่า เปล้าตะวันมีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกันที่โดดเด่น จึงได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร ซึ่งได้การรับรองมาตรฐานจีเอ็มพี

วิทย์เสริมแกร่งภูมิปัญญาท้องถิ่น

เธียรรินรดี วิสุทธิแพทย์ ผู้บริหารบริษัทเปล้าตะวัน ออร์แกนิค เฮิร์บ จำกัด ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคลและเวชสำอาง กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทำวิจัยร่วมกับสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) นำสารสกัดเปล้าตะวันไปพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ใช้กับผิวหน้าครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ไนท์ครีม ไนท์เซรัม เพื่อออกเป็นซี่รีส์ ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม อาทิ ชุดสิว ชุดริ้วรอย ชุดฝ้า โดยใช้สารสกัดจากเปล้าตะวันเป็นแกนหลักแล้วเสริมด้วยสมุนไพรอื่น คาดว่าจะสามารถเปิดตัวในปีหน้า

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาลงทุน 2-3 ล้านบาท คาดว่า 3-5 ปีจะสามารถคืนทุนตามเป้าหมาย สำหรับปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 1 ล้านบาท แม้ว่าธุรกิจนี้จะเป็นธุรกิจที่ทำตลาดยากแต่กลุ่มลูกค้ามีรอยัลตี้สูง ถ้าสามารถทำให้ลูกค้ายอมรับได้แล้ว การขยายธุรกิจจะไม่ใช่เรื่องยาก

“เป้าหมายสูงสุดคือ ความเป็นแบรนด์คนไทยที่มีคนยอมรับและรู้จักสมุนไพรเปล้าตะวัน โมเดลธุรกิจในอนาคตอยากทำให้ครบวงจรในรูปแบบของศูนย์ดูแลสุขภาพให้บริการแบบครบวงจรในตราดโดยใช้ศาสตร์ของแพทย์แผนไทย มีแพทย์แผนไทยเข้าตรวจโรค มีอาหารเพื่อสุขภาพ หากใครมาตราดก็ต้องแวะมาเที่ยว”

เธียรรินรดีสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์เครื่องสําอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ศึกษาแพทย์แผนไทยหลักสูตรเภสัชกรรมไทยเพิ่มเติม และเป็นทายาทกิจการยาแผนโบราณบริษัท เปล้าแดงโอสถ จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้จากห้องเรียนมาต่อยอดธุรกิจและสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพรของครอบครัวให้เข้าถึงหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง ตลอดจนสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับเปล้าตะวัน ผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยการสกัด ที่มีคุณสมบัติลดการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย

“มีแผนจะขยายผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ให้เป็นที่รู้จัก เนื่องจากเป็นพืชตัวใหม่ที่คนไทยยังไม่คุ้นเคย จึงจำเป็นต้องสื่อสารให้เป็นที่จดจำ อีกทั้งอนาคตจะแยกบริษัทเปล้าตะวัน ออร์แกนิค เฮิร์บ ออกจากบริษัทเปล้าแดงโอสถ เพราะแนวทางการทำตลาดและช่องทางการจำหน่ายต่างกัน อีกทั้งเพื่อความชัดเจนในการสร้างแบรนด์เปล้าตะวันให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในคุณภาพสินค้าทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศในฐานะผู้บุกเบิกรายแรก

แตกไลน์เวชสำอาง- บริการครบวงจร

ในการพัฒนาแชมพูสมุนไพรเปล้าตะวันนั้น ได้ออกมาเป็นสูตรทูอินวันที่ไม่ต้องใช้ครีมนวดผม ทางหน่วยงานวิจัยยังครอบคลุมถึงอัตราส่วนผสมกับสมุนไพรแต่ละชนิด เช่น ย่านาง ขิง กะเม็ง ใบหมี่สกัด เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่เหมาะสมตามต้องการ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยที่ทำให้คันหนังศีรษะและเป็นรังแคได้ง่าย

สำหรับช่องทางจำหน่ายผ่านร้านเลมอนฟาร์ม สบายใจ ซึ่งเป็นช่องทางเดียวกับที่วางจำหน่ายยาสมุนไพรแผนโบราณ นอกจากนี้ยังได้ขยายช่องทางสื่อสารและจำหน่ายผ่านทางโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยสามารถติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายได้หรือสั่งทางออนไลน์ แต่หากต้องการดูสินค้าก็สามารถไปร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายได้

ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายจากออนไลน์ มากกว่าออฟไลน์ 70 : 30 โดยจะเริ่มจากร้านออร์แกนิค เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ กลุ่มคนชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกาย เพราะสามารถใช้สระผมได้ทุกวัน ส่วนในอนาคตจะแตกไลน์ผลิตแฮร์ออย แฮร์เซรัม ออกมาเสริม