สวิสพบเงินวันเอ็มดีบี 7 พันล้านดอลล์

นายไมเคิล ลอเบอร์ อัยการสูงสุดของสวิตเซอร์แลนด์ เผยกับเว็บไซต์วอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า เจ้าหน้าที่พบเงินราว 7,000 ล้านดอลลาร์ที่มาจากกองทุนพัฒนามาเลเซีย (วันเอ็มดีบี) และอดีตบริษัทลูกของกองทุนดังกล่าว ไหลผ่านระบบการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินโลก ระหว่างปี 2552-2558

การเปิดเผยดังกล่าวตอกย้ำว่า กองทุนวันเอ็มดีบีซึ่งประสบกับกรณีอื้อฉาวทางการเงิน มีการยักยอกเงินทุนจำนวนมาก

“เจ้าหน้าที่สวิตเซอร์แลนด์กำลังตรวจสอบว่ามีการยักยอกเงินที่ไหลผ่านระบบการเงินของประเทศมากน้อยเพียงใด” นายลอเบอร์เผย

การสอบสวนในกองทุนวันเอ็มดีบีเริ่มเข้มข้นขึ้นหลังนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ก่อตั้งกองทุนดังกล่าว แพ้การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ต่อนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำจอมเฮี้ยบ 

หลังจากนั้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ได้ตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อสอบสวนการกระทำผิดอาญาที่เกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาววันเอ็มดีบี พร้อมทั้งตรวจค้นและยึดทรัพย์สินใด ๆ ก็ตามที่เชื่อว่าใช้เงินที่ยักยอกจากกองทุนซื้อมา

สวิตเซอร์แลนด์และอีกหลายประเทศต่างเข้าตรวจสอบกองทุนวันเอ็มดีบี โดยการเปิดเผยของนายลอเบอร์มีขึ้นขณะเขาเดินทางไปมาเลเซียเพื่อหารือความร่วมมือด้านการสอบสวนกับทางการมาเลเซีย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายนาจิบขึ้นให้การต่อศาลโดยปฏิเสธทั้ง 4 ข้อหา รวมถึง 3 ข้อหาที่เกี่ยวกับการยักยอกเงินกองทุนวันเอ็มดีบี ก่อนหน้านี้ นายนาจิบและผู้บริหารกองทุนยืนกรานว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายมาโดยตลอด ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนสมัยที่นายนาจิบยังอยู่ในอำนาจ ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ให้กับเขาด้วย

นายลอเบอร์ กล่าวว่า ทางการสวิตเซอร์แลนด์ได้อายัดเงิน 400 ล้านดอลลาร์ที่อยู่ในขอบเขตอำนาจของตน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนการฟอกเงินในวันเอ็มดีบีและบริษัทเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นอดีตหน่วยงานหนึ่งของกองทุนนี้

เอสอาร์ซี อินเตอร์เนชันแนลก่อตั้งเมื่อปี 2554 เพื่อเป็นหน่วยการลงทุนด้านพลังงานในต่างประเทศของวันเอ็มดีบี และเข้าไปอยู่ในสังกัดกระทรวงการคลังเมื่อปี 2555

อัยการสูงสุดชาวสวิส เผยด้วยว่า ขณะนี้ทางการกำลังสอบสวนบุคคล 6 คนและธนาคาร 2 รายเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับวันเอ็มดีบี