อีไอเอชี้สหรัฐจ่อชาติผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่โลก
อีไอเอ คาดการณ์ว่า ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบและปิโตรเลียมของสหรัฐจะลดลงจากระดับ 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2560 สู่ระดับ 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2561 และจะปรับตัวลงเหลือ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2562 ซึ่งจะเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2501
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยรายงานคาดการณ์สภาวะน้ำมันเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า สหรัฐจะก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก หากสามารถรักษาทิศทางการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับปัจจุบันได้
ข้อมูลจากรายงานแนวโน้มพลังงานระยะใกล้ของอีไอเอ ระบุว่า กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มเฉลี่ยอยู่ที่ 10.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2561 เพิ่มขึ้นจากระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2560 และคาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 11.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2562
ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หากเป็นไปตามคาดการณ์ ก็เท่ากับว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐจะทำลายสถิติก่อนหน้าที่ระดับ 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อปี 2513
อีไอเอ ประมาณการว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐโดยเฉลี่ยในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 10.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐยังคงอยู่เหนือระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่เดือนก.พ.สำหรับการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 31.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิ.ย.
อีไอเอ คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศโอเปกจะลดลงราว 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2562 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การผลิตน้ำมันดิบในบางประเทศที่เพิ่มขึ้นนั้นะช่วยชดเชยปริมาณที่สูญเสียไปกว่า 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวันในอิหร่านและเวเนซุเอลา
