หุ้นยุโรปปิดลบเหตุวิตกสงครามการค้าบานปลาย

หุ้นยุโรปปิดลบเหตุวิตกสงครามการค้าบานปลาย

หลังสหรัฐประกาศจำกัดการลงทุนบริษัทต่างชาติ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมออกมาตรการจำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะจีนเท่านั้น ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศความพร้อมที่จะตอบโต้ทุกประเทศที่ตั้งกำแพงการค้าเช่นกัน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2% ปิดที่ 377.17 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,270.33 จุด ลดลง 309.39 จุด หรือ -2.46% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,509.84 จุด ลดลง 172.43 จุด หรือ -2.24% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,283.86 จุด ลดลง 103.52 จุด หรือ -1.92%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การทำสงครามการค้าอาจลุกลามเป็นวงกว้าง หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมออกแถลงการณ์จำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะจีนเท่านั้น หากพบว่าประเทศใดละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาต่อสินค้าด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนว่า "ทุกประเทศที่ตั้งกำแพงการค้า และเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ควรจะยุติการกระทำดังกล่าว มิฉะนั้นจะเผชิญกับการตอบโต้จากสหรัฐ"

"สหรัฐขอยืนกรานให้ทุกประเทศทั่วโลกที่ได้ตั้งกำแพงการค้า และเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐ ให้ยกเลิกกำแพงการค้า และการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว มิฉะนั้นจะต้องเผชิญมากกว่ามาตรการตอบโต้จากสหรัฐ โดยการทำการค้าจะต้องเป็นธรรม และไม่ใช่การดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว" ทรัมป์ระบุในทวิตเตอร์

หุ้นคาร์นิวัล ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือสำราญ ร่วงลง 11% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนี FTSE 100 หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ตัวเลขกำไรในปีนี้ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ หลังจากที่ประชุมโอเปกมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิต โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 3.3% หุ้นบีพี ดิ่งลง 3.1%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า โดยหุ้นเกลนคอร์ ดิ่งลง 4.7% หุ้นแองโกล อเมริกา ร่วงลง 4.5%