อียูขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ-พุ่งเป้าฐานเสียง"ทรัมป์"

อียูขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ-พุ่งเป้าฐานเสียง"ทรัมป์"

สหภาพยุโรป(อียู)จะเริ่มเก็บภาษี 25% กับสินค้าสหรัฐมูลค่าราว 1 แสนล้านบาทตั้งแต่วันศุกร์นี้ เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าเหล็กและอลูมิเนียม

คณะกรรมาธิการยุโรป แถลงเมื่อวานว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติการตั้งกำแพงภาษีตอบโต้สหรัฐด้วยการเก็บภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าของสหรัฐที่มีมูลค่า 2,800 ล้านยูโร หรือ 105,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งเหล็กและอลูมิเนียม มอเตอร์ไซค์ น้ำส้ม วิสกีเบอร์เบิน ถั่ว เนย เรือยนต์ บุหรี่ และกางเกงยีนส์ เป็นต้น

เซซิเลีย มัลม์สตรอม คณะกรรมาธิการการค้าอียู กล่าวว่า เราไม่ได้ต้องการมาถึงจุดนี้ แต่การตัดสินใจของสหรัฐเพียงฝ่ายเดียวอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้อียูไม่มีทางเลือก และมาตรการตอบโต้นี้มีความเหมาะสมและอยู่ในกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก แต่พร้อมยกเลิกมาตรการนี้ หากสหรัฐยกเลิกการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียม

ประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% กับอียู แคนาดา และเม็กซิโกตั้งแต่ 1 มิ.ย.ขณะที่เหล็กและอลูมิเนียมที่อียูส่งออกไปยังสหรัฐมีมูลค่า 6,400 ล้านยูโร

สำหรับสินค้าสหรัฐที่อียูเรียกเก็บภาษีล้วนมีผลกระทบทางการเมืองต่อรัฐบาลสหรัฐอย่างมาก โดยวิสกีเบอร์เบินผลิตในรัฐเคนตักกีของวุฒิสมาชิกมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน และน้ำส้มเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของรัฐฟลอริดา รัฐที่ไม่เป็นฐานเสียงของพรรคใดชัดเจนและเป็นสนามเลือกตั้งสำคัญ

การขึ้นภาษีจะทำให้สินค้าอเมริกันที่ได้รับผลกระทบในยุโรป มีราคาแพงขึ้น ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีต่อผู้ผลิตสหรัฐ หากความต้องการสินค้าเหล่านั้นลดลง และเริ่มมีผลต่อกำไร อาจทำให้คนอเมริกันต้องตกงาน

นอกจากนี้  อียูยื่นร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก และหากไม่อาจหาข้อยุติได้และยืดเยื้อถึง 3 ปี อียูจะเรียกเก็บภาษีระลอกสองกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 3,700 ล้านยูโร

ส่วนแคนาดาและเม็กซิโกประกาศเก็บภาษีสินค้าสหรัฐเป็นการตอบโต้แล้วเช่นกัน