ดาวโจนส์ปิดลบสวนทางแนสแด็ก-เอสแอนด์พี500

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (14มิ.ย.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวลง  สวนทางกับดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีแนสแด็ก ที่ปิดบวกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมทั้งการทำข้อตกลงครั้งใหญ่ในการซื้อกิจการในธุรกิจสื่อของสหรัฐ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์  ร่วงลง  25.89  จุดหรือ 0.1% ปิดที่ 25,175.31 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น 6.86 จุดหรือ 0.25% ปิดที่ 2,782.49 และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 65.34  จุด หรือ 0.85% ปิดที่ 7,761.04 จุด

หุ้นกลุ่มธุรกิจสื่อสารพุ่งขึ้นนำตลาดในวันนี้ หลังจากบริษัทคอมแคสต์ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการบริษัททเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ของนายรูเพิร์ท เมอร์ดอค ด้วยวงเงิน 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเสนอซื้อหุ้นฟ็อกซ์ในราคา 35 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งวงเงินที่คอมแคสต์เสนอซื้อกิจการของฟ็อกซ์ สูงกว่าถึง 19% เมื่อเทียบกับวงเงินที่บริษัทวอลท์ ดิสนีย์เสนอซื้อธุรกิจของฟ็อกซ์ก่อนหน้านี้

เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ดิสนีย์ประกาศซื้อธุรกิจส่วนใหญ่ของฟ็อกซ์ในข้อตกลงวงเงิน 5.24 หมื่นล้านดอลลาร์

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ดิสนีย์จะได้ครอบครอง เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค สตาร์ทีวี สตูดิโอภาพยนตร์ของฟ็อกซ์ หุ้นในสกาย รวมทั้งเครือข่ายกีฬาในภูมิภาค และการที่ดิสนีย์ซื้อธุรกิจบันเทิงของฟ็อกซ์จะช่วยสนับสนุนแผนการของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการแพลทฟอร์มระบบสตรีมมิง และจะเป็นคู่แข่งสำคัญของเน็ตฟลิกซ์

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.

ยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของยอดขายรถยนต์ และสินค้าอื่นๆ รวมทั้งยอดขายน้ำมันเบนซินตามการดีดตัวของราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ ยังเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 224,000 ราย

ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 171 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2512

นักลงทุนจับตาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมจัดการประชุมหารือกับที่ปรึกษาทางการค้าของทำเนียบขาวเพื่อตัดสินใจว่าในวันศุกร์นี้ตามเวลาสหรัฐ จะมีการประกาศรายชื่อสินค้าจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีหรือไม่