'ประยุทธ์' ตั้งเป้า ปี 69 คนไทยดื่มนมได้ 25 ลิตรต่อคนต่อปี

'ประยุทธ์' ตั้งเป้า ปี 69 คนไทยดื่มนมได้ 25 ลิตรต่อคนต่อปี

"ประยุทธ์" แนะหยุดบุหรี่ ละเว้นสิ่งไม่ดีต่อร่างกาย ตั้งเป้า ปี 69 คนไทยดื่มนมได้ 25 ลิตรต่อคนต่อปี

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่า วันที่ 31 พ.ค. ของทุกปีเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก และ 1 มิ.ย.ของทุกปีเป็นวันดื่มนมโลก

เนื่องจากชาวโลกต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า ทรัพยากรมนุษย์ มีค่ามากที่สุด จึงพยายามร่วมกันรณรงค์ให้ ทำในสิ่งที่ดีต่อร่างกาย ละเว้นสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกาย ซึ่งก็ตรงกับหัวใจของ พระพุทธศาสนาทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ที่สามารถประยุกต์ปฏิบัติได้ไม่ยากนักในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามการสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่จะทำลายสุขภาพของตนเองแล้วก็อาจจะทำร้ายผู้ที่อยู่รอบข้างอีกด้วย อาจเป็นบันไดขั้นแรกที่จะนำนักสูบหน้าใหม่ไปสู่ยาเสพติดรูปแบบอื่นๆ เราคงต้องหยุดเสียตั้งแต่ก้าวแรก รัฐบาลจึงได้ผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ พ.ศ.2560 เจตนาต้องการปกป้องเยาวชนไม่ให้เป็นนักสูบหน้าใหม่คุ้มครองผู้คนรอบข้างให้ปลอดภัยจากควันบุหรี่มือสอง และลดจำนวนผู้สูบลงหากบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพจะช่วยลดภาระทางงบประมาณในการรักษาพยาบาลจากโรคมะเร็ง 12 ชนิด โรคหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคเบาหวานได้

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการดื่มนมยิ่งดื่ม ยิ่งดี ตนแนะนำให้ทุกคนดื่มนม เหมือนที่เชิญชวนให้ทำความดีอยู่เสมอๆ สถิติที่น่าตกใจ คือ คนไทยดื่มน้ำอัดลม เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน มากกว่า 41 ลิตร ต่อคนต่อปี ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นอันดับ 5 ของโลก มากกว่า 52 ลิตรต่อคนต่อปี แต่กลับดื่มนม อยู่ในอันดับที่ 68 ของโลก เพียง 18 ลิตรต่อคนต่อปี หรือสัปดาห์ละ 2 แก้วเท่านั้น น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของโลก 113 ลิตรต่อคนต่อปี รัฐบาลจึงตั้งเป้าเพิ่มการดื่มนมของคนไทย จาก 18 เป็น 25 ลิตรต่อคนต่อปี ให้ได้ภายในปี 2569